Saturday, August 27, 2011

เรื่องของการสกรีนเสื้อ2

ใช้สีแบบไหนดี?
สีสกรีนมีหลายชนิดครับ ในที่นี้จะพูดแต่สีที่ใช้สกรีนผ้านะครับ มีทั้งแบบ
สีจม สีลอย สียาง สีนูน สีพลาสติกซอล เชื้อน้ำ เชื้อน้ำมัน  ซึ่่งแต่ละตัว
ก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน เชื้อน้ำก็จะใช้น้ำเป็นตัวทำละลาย พูดง่ายๆคือ
เอาสีมาผสมน้ำได้เลย เชื้อน้ำมัน ก็ต้องใช้น้ำมันผสมของมัน เป็นตัวทำละลาย
ผมจะพูดถึงแต่สีลอยเชื้อน้ำนะครับ เพราะใช้อยู่อย่างเดียว
สำหรับคนที่เริ่มต้นทำ แนะนำว่า ซื้อ สีขาว ดำ เหลือง แดง น้ำเงิน โดยเน้นสี
ขาวเยอะหน่อยครับ อาจจะสีขาวซัก 3โล  ดำ2 นอกนั้นอย่างละ 1โล
(ราคาสีลอยเชื้อน้ำ ถ้าซื้อตามร้านเครื่องเขียน ตกที่โลละ250-350 จำไม่ค่อยได้ครับ
แนะนำว่าถ้าซื้อเยอะ ไปซื้อที่บริษัทเลยดีกว่า ที่ผมใช้อยู่จะเป็นสีของ บ.ชัยบูรณ์
ซื้อบริษัทถูกกว่าเยอะ ละรู้สึกว่า ถ้าซื้อถึง2 หรือ 3000 นี่เค้าจะส่งให้ฟรีนะครับ คือ
โทรไปสั่งเค้าไ้ด้เลย)



โอเค ได้สีมาแล้ว ทีนี้จะแนะนำการใช้นะครับ เป็นเรื่องเล็กๆ แต่รู้ไว้ใช่ว่าเนอะ
-การผสมสี สำหรับลอยเชื้อน้ำ ใช้น้ำผสม ตามประสบการณ์แล้ว ใส่น้ำทีละนิดๆ
อย่าใส่ไปตุมเดียว เดียวเหลวไปจะใช้ไม่ได้เปล่าๆ นะครับ เวลาผสม เอาแค่ให้
ไม่หนืดไป แล้วก็ไม่เหลวไป ถ้าเหลวไป เวลาสกรีนสีมันจะซึมๆ เลอะด้านข้างเอาได้
ถ้าหนืดไป สกรีนยาก  ละสีจะแห้งติดบล็อคเร็ว ทำให้สกรีนได้ไม่กี่ตัวก็ต้องรีบไปล้าง
-บางทีเวลาไปซื้อสีมา ละร้านมันคงเก็บไว้นานเกิน สีมันค่อนข้างแห้งๆ เวลาผสมน้ำ
ต้องคนนานๆ ให้สีมันแตกตัวเ็ป็นเนื้อเดียวกันนะครับ นานแค่ไหนก็ต้องทน!!
ไม่งั้นมีเสียละเออ สกรีนไปเรื่อยๆ อยู่ดีๆ เจอสีเป็นก้อนที่ไม่ละลายมา เล่นเอาเสื้อเสีย
เชียวแหละ
-สีที่ผสมน้ำมาแล้ว เก็บได้ไม่นานนะครับ เก็บไปนานๆ ราขึ้นใช้ไม่ได้ครับ เพราะฉะนั้น
เวลาผสมมาใช้ กะให้ดีๆ ละครับ อย่าให้มากไป หรือน้อยไป มากไปก็เททิ้งเสียดายของ
สีแพงเน้อ น้อยไปก็ต้องมานั่งผสมใหม่ มือเราคงไม่เทียงเหมือนเครื่องจักรหรอกครับ
ทีี่ผสมสิบทีเหมือนเป๊ะสิบที จริงไหมครับ หุหุ
เรื่องสีคงมีแค่นี้มั้งครับ ต่อไปดูอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้อีกตัว

ไม้ปาดสกรีน
ยางปาดสกรีนจะมีหน้าตัดหลายแบบนะครับ ที่เห็นๆ จะมีแบบ
หน้าตัดเหลี่ยม หน้าตัดแหลม และหน้าตัดแหลมข้างเดียว สกรีนผ้าแบบเราๆ
ใช้แบบหน้าตัดแหลมครับ
ส่วนวิธีการเลือกไม้ปาดสกรีน ก็เลือกที่ขนาดใหญ่กว่าหน้างานเราเล็กน้อย
แบบว่าถ้างานเราหน้ากว้างซัก 20เซน ไม้ปาดก็ควรจะยาวซัก 25เซนนะครับ
ปาดทีเดียวเต็มรูปเลย ไม่ใ่ช่ต้องมาปาดครั้งละครึ่งตัว....แบบนั้นงาน
เสียนะเออ (ส่วนเรื่องราคานั้น ที่เห็นขายตามร้านเครื่องเขียนจะเป็นอันเล็กๆ
ราคาประมาณ 300+ แล้วแต่ขนาด ถ้าสั่งซื้อที่ ชัยบูรณ์ ก็...ถ้าจำไม่ผิดเค้าขาย
เป็นเซนครับ เซนละ 10หรือ20 นี่แหละ อันที่ใช้อยู่ตกเกือบพัน -*- )

บล็อกสกรีน
บล็อกสกรีนจะมีแบบกรอบไม้ กับกรอบอลูมิเนียม อย่างผมก็ใช้แค่กรอบไม้ละครับ
กรอบไม้จะมีข้อเสียตรงที่ ถ้าใช้ไปนานๆ โอกาศที่ไม้จะหดตัว บิด มีสูง แน่นอนว่า
ถ้าเกิดขึ้นก็ต้องทำอันใหม่มาใช้ ถ้าเป็นกรอบอลูมิเนียม ราคาก็จะสูงหน่อย แต่นอน
นอนว่า ทนกว่าไม้แน่นอน
แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องไม้บิดเกินไป เพราะก่อนที่มันจะบิด โอกาศที่บล็อกจะตันมันเยอะ
กว่า -*-
บล็อกตันเกิดจากอะไร?
ล้างบล็อกไม่สะอาดนั่นเอง....คือถ้าบล็อกมันตัน สีเก่าที่ล้างไม่หมดมันไปเกาะตรงส่วน
ที่เราจะสกรีน ทำให้งานที่สกรีนออกมาใหม่ สีไม่เต็ม แบบ ขาดๆ หายๆ (งานผมเห็นบ่อยๆ
ครับ แต่ผมว่าสวยไปอีกแบบนะ เหมือนเสื้อราคาแพง แต่อันนั้นเค้าตั้งใจทำให้เป็นแบบนั้น
แต่ของผม เกิดจากการล้างบล็อคไม่สะอาดครับ ฮา)
ส่วนเรื่องการทำบล็อก ผมไม่รู้นะครับ ผมจ้างเค้าทำครับ เราไม่จำเป็นต้องทำเองหมด
ทุกขั้นตอนนิเนอะ  (ราคาค่าทำบล๊อกตกอยู่ที่ 350+ แล้วแต่ขนาด ส่วนทำที่ไหน ลอง
หาแถวบ้านดูก่อน หรือ ถาม google ดูครับ)

สุดท้าย ขาดไม่ได้เลย จะสกรีนเสื้อยืด ก็ต้องมีเสื้อยืดซิ!!
หาซื้อเสื้อที่ไหนดี?
แนะนำแค่ที่เดียวเลยครับ สำหรับคนกรุงเทพและปริมณฑลนะครับ
โบ๊เบ้ทาวเวอร์ครับ ที่เดียวพอ มีให้เลือกเ็ป็นร้อยๆ ร้าน มาที่เดียวครบครับ
ใช้ผ้าแบบไหนดี?
สำหรับเสื้อยืดแล้ว นิยมใช้ผ้าคอตต้อนกันครับ ผ้าอื่นมีหรือเปล่าไม่รู้เหมือนกัน
แต่ที่เห็นขายๆ กันก็มีแต่ผ้าคอตต้อน  ทีนี้ หลายคนอาจจะงง เพราะผ้าคอตต้อน
ก็มีย่อยไปอีกเล็กน้อย ที่นิยมขายกันจะมีสองเนื้อนะครับ คือ 22 กับ 32
จะอธิบายแบบคนใช้นะครับ ไม่ได้อธิบายแบบผู้รู้ เพราะไม่มีความรู้เรื่องผ้าครับ
เนื้อ22 ก็จะหนาๆ หน่อย เท่าที่เคยใช้มา ใช้ไปนานๆ ละผ้าค่อนข้างขึ้นขุย
ใส่ละเหม็นเหงื่อ เพราะผ้าหนา ถ้าแดดไม่ดี ซักมาแล้วโครตเหม็นอับเลย
ส่วนหดหรือเปล่าไม่รู้ซิครับ ไม่เคยสังเกตุ
ส่วน32 เนื้อผ้าจะบางกว่า ใช้ไปนานๆ ก็ไม่ค่อยมีขุย ใส่สบาย เพราะเนื้อบาง
ไม่มีกลิ่นเหม็นอับ ซักแล้วก็ไม่ยับเป็นขี้ ละก็ไม่หดด้วยมั้งเท่าที่ใส่มาก็ยังไม่หดนะ
(berserkrabbit ใช้เนื้อนี้แหละ ลองถามคนซื้อดูว่า เนื้อดีไหม ฮา)
(ส่วนเรื่องราคานั้น แน่นอนว่า เนื้อ32 แพงกว่า เนื้อ22 ค่อนข้างเยอะ ราคาก็แล้วแต่
ไซด์ เนื้อผ้า และจำนวนครับ 40-110)

นี่บอกราคาต้นทุนไปเกือบหมดเลยนะครับ
แค่นี้คงพอคำนวนต้นทุนของเสื้อกันได้คร่าวๆ แล้วมั้งครับ อย่าคิดว่า เห้ยคำนวนแล้ว
ต้นทุนไม่เท่าไรเองนี่หว่า..... แต่อย่าลืมเรื่องค่ารถ ค่ากิน ค่าแรง ค่าสมอง ค่านุ้นค่านี่
ละทำๆ ละเสียอีกนะครับ

No comments:

Post a Comment