Sunday, February 24, 2013

15 วิธีดูแลตัวเองให้ปลอดภัยในรั้วมหา'ลัยเมืองนอก


1. อย่าเปิดประตูใหญ่ค้างไว้
     หอพักส่วนใหญ่ต้องใช้การสแกนบัตร ลายนิ้วมือ หรือกดรหัสเพื่อเปิดประตูใหญ่ แล้วน้องต้องปิดประตูเองทุกครั้งนะคะ ถึงประตูจะเหวี่ยงตัวกลับมาปิดเอง น้องก็ต้องมองจนกว่ามันจะปิดเสร็จหรือไม่ก็ดันมันไปเลย ในหนังเราก็เห็นตั้งเยอะแล้วที่คนภายนอกจะแทรกตัวเข้ามาก่อนที่ประตูจะปิดตัวเองทัน แล้วอย่าลืมเตือนเพื่อนคนอื่นให้ช่วยกันสังเกตเรื่องนี้ด้วยนะคะ

2. ห้ามให้คนแปลกหน้าเข้าประตูมาก่อนได้รับการตรวจสอบ
     ถ้าน้องเจอคนแปลกหน้ามารอหน้าหอ บอกว่าจะมาหาคนนั้นคนนี้ ก็บอกเขาว่าจะไปตามคนนั้นให้ และให้เขารอหน้าหอต่อไป ถ้ามีคนมาบอกว่าเป็นช่างซ่อม น้องก็ต้องถามผู้ดูแลหอก่อน หรือถ้ามีคนรถเสียมาขอใช้โทรศัพท์ ก็ให้เขาบอกเบอร์ที่ต้องการติดต่อมา แล้วน้องจะติดต่อให้เอง ในขณะที่เขาคนนั้นรออยู่ด้านนอก
     สำหรับหอพักที่ไม่มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ประตูใหญ่ และมีคนมาเคาะประตูถึงหน้าห้องน้อง แม้จะเป็นช่างซ่อมแอร์ที่น้องโทรไปสั่งเองก็ตาม น้องก็ต้องให้เขาแสดงบัตรประจำตัวหรือเอกสารผ่านทางช่องมองบนประตูก่อนเปิดประตูให้ทุกครั้ง

3. ล็อกประตูตลอดเวลา
     แม้ว่าจะแค่เดินไปยืมหนังสือจากเพื่อนในหอเดียวกัน หรือไปเข้าห้องน้ำ ก็ควรล็อกตลอด ใครจะรู้ว่าวินาทีที่น้องออกไปเข้าห้องน้ำนั้น จะเป็นจังหวะเดียวกับที่น้องชายขี้ขโมยของเพื่อนห้องตรงข้ามออกมาเห็นพอดี และถึงแม้รูมเมทจะอยู่ในห้องก็วางใจไม่ได้ค่ะ เกิดรูมเมทเรานั่งฟังเพลงแล้วหันหลังให้ประตูอยู่ล่ะ ซวยจริงอะไรจริงของแท้เลย

4. รักษาลูกกุญแจให้ดี
     จะเป็นลูกกุญแจหรือบัตรก็ต้องเก็บไว้ให้ดี ถ้าทำหายขึ้นมา ต้องไปแจ้งเจ้าหน้าที่และยอมเสียค่าปรับ เพื่อที่เขาจะได้รู้ว่าบัตรรหัสของน้องหายไปแล้ว และถ้าคนอื่นเอามาใช้ก็จะรู้ทันที หรือเจ้าหน้าที่อาจเปลี่ยนที่ล็อกใหม่ให้ เพื่อที่โจรจะใช้กุญแจเดิมของน้องไม่ได้อีกแล้ว กัดฟันยอมเสียค่าปรับ ดีกว่าที่มีโจรขึ้นหอและปล้นไปเกลี้ยงโดยใช้บัตรของน้อง น้องอาจต้องรับผิดชอบให้เพื่อนทั้งหอก็ได้
     ส่วนรหัสเปิดประตู ถ้าจำไม่ได้และต้องจดจริงๆ ให้จดเป็นเลขไทยเลยค่ะ เวลาหายจะได้ไม่มีใครรู้ว่ามันคือกระดาษอะไร

5. ติดตั้งระบบติดตามอุปกรณ์ต่างๆ
     พวกสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ต่างๆ ต้องติดตั้งโปรแกรมติดตามไว้ด้วยนะคะ ถ้าหายไปจะได้ตามรอยทัน ถ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่ไม่สามารถทำได้ น้องสามารถเปลี่ยนเป็นเก็บใส่ตู้แล้วล็อกกุญแจตู้ทุกครั้งหลังใช้งานเสร็จแทนก็ได้ค่ะ ให้คิดไว้ว่ากว่าจะเอาออกมาใช้ทีเรายังลำบากเลย โจรก็อาจจะขี้เกียจขโมยไปเลยก็ได้ 555

6. คอยจับตาดูของๆ ตัวเองเสมอเวลาไปห้องสมุด
     ข้อนี้จากประสบการณ์ตรงของพี่เลยค่ะ เพราะชอบเอาคอมไปเล่นในห้องสมุด (ชาร์จไฟฟรี เน็ตฟรี) แล้วเวลาไปหยิบหนังสือเล่มอื่น เราก็อาจคลาดสายตาจากมันไปบ้าง ฉะนั้นเราต้องคอยเดินวนกลับมามองเรื่อยๆ ถ้าเป็นมือถือหรือไอพอดที่หยิบสะดวก ก็ให้ถือติดตัวไปด้วยทุกครั้ง แต่ถ้าหิ้วลำบากอย่างคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก ก็ทำให้มันดูเยอะไว้ค่ะ เยอะนี่คือ อย่าปิดหน้าจอรอใส่กระเป๋า เพราะจะจิ๊กสะดวกมาก ให้เปิดหน้าจอค้างอ้าไว้ แล้วเอาปากกาหรือหนังสือมาพาดๆ ทับคีย์บอร์ดเยอะๆ กะว่าถ้าใครจะขโมยเงียบๆ ก็ต้องเสียเวลาเอาของออกหลายชิ้น หรือถ้าใครจะขโมยเร็วๆ ก็ต้องได้ยินเสียงของตกบ้างแหละ หรือถ้าใครของไม่เยอะ อีกวิธีที่พี่เคยทำคือซ่อนค่ะ ซ่อนไว้ใต้เบาะที่นั่งของเรานั่นแหละ (บนโต๊ะก็ต้องมีของอย่างอื่นด้วยนะ ไม่งั้นคนจะมานั่งทับ) หรือวางไว้บนโต๊ะแล้วเอาหนังสือมากองทับหรือบังหน้าบังหลังให้ทั่ว อันนี้เป็นเทคนิคแต่ละคนค่ะ ข้อสำคัญคืออย่าจงใจซ่อนจนดูผิดสังเกต แต่พี่เคยทำมาหมดทุกวิธีแล้ว ไม่มีหายค่ะ

7. ล็อกหน้าต่างเสมอ
     ส่วนใหญ่จะย้ำกันว่าอย่าลืมล็อกประตู จนหลายคนล็อกประตูแต่ลืมล็อกหน้าต่าง 555 ฉะนั้นล็อกให้ครบทุกทางที่คนนอกสามารถเข้ามาได้ค่ะ

8. บันทึกเบอร์สำคัญในการอายัติบัตรไว้เสมอ
     ด้านหลังบัตรสำคัญๆ อย่างบัตรเครดิต บัตรเอทีเอ็มหรือบัตรนักศึกษาจะมีเบอร์โทรศัพท์ให้โทรแจ้งกรณีบัตรหาย ฉะนั้นเราต้องจดเบอร์พวกนั้นไว้ก่อนที่บัตรจะหายค่ะ บันทึกไว้ในโทรศัพท์และจดแยกเก็บไว้สองสามที่ พร้อมจดให้ละเอียดว่าในกระเป๋าสตางค์เรามีบัตรอะไรบ้าง จะได้แจ้งอายัติครบทุกใบ แล้วอย่าให้ใครเห็นกระดาษที่จดรายละเอียดนี้ไว้ล่ะ
     นอกจากนี้ก็ต้องจำเบอร์เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในมหาวิทยาลัยให้ได้ด้วยนะคะ จำเบอร์หลักหรือสายด่วนของมหาวิทยาลัยให้ได้ซัก 1 เบอร์ แล้วเบอร์ยามแต่ละตึกบันทึกไว้ในมือถือก็ได้ค่ะ เวลาฉุกเฉินจะได้ติดต่อได้ทันที ส่วนเบอร์ฉุกเฉินอย่าง 191 หรือ 911 ก็จำได้กันอยู่แล้วเนอะ จำให้ถูกละกันว่าประเทศไหนใช้เบอร์ไหนค่ะ


9. ใช้บริการผู้ดูแลของมหาวิทยาลัย
     มหาวิทยาลัยเมืองนอกหลายๆ แห่งจะมีบริการผู้ดูแล คือบริการขับรถหรือเดินไปส่งถึงหอพักเมื่อนักศึกษาต้องอยู๋ทำงานดึก เมื่อใดที่น้องต้องอยู่ดึก ให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่อาคารนั้นๆ ทุกครั้งว่าน้องจะอยู่ห้องไหน และอยู่ถึงประมาณกี่โมง เจ้าหน้าที่จะได้คอยมาตรวจตราเรื่อยๆ และเมื่อเสร็จก็จะพาไปส่งที่หอพัก (ส่วนมากเป็นรถกอล์ฟ) บางครั้งถ้ามีคนอยู่ดึกหลายคนในอาคารเดียวกัน น้องอาจจะต้องลงมารอคนอื่นในห้องโถงด้านล่างแล้วกลับพร้อมกันเป็นกลุ่มใหญ่
     เด็กฝรั่งส่วนใหญ่จะชอบล้อว่าคนใช้บริการนี้เป็นพวกขี้ขลาด แต่น้องอย่าแคร์ค่ะ เพราะมันเป็นสิทธิของเรา มหาวิทยาลัยตอนดึกๆ เปลี่ยวจะตาย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของเราต้องมาก่อนค่ะ ถ้าใครแซว น้องก็เชิดๆ ไปเลยว่า จ่ายค่าเทอมแล้ว ต้องใช้บริการทุกอย่างให้คุ้มค่าเงิน 555

10. ใช้ระบบบัดดี้
     จะไปไหนต้องมีเพื่อนไปด้วยเสมอ แม้จะเป็นน้องผู้ชายก็ตาม เดี๋ยวนี้จะเป็นใคร ตัวใหญ่ตัวเล็กก็มีโอกาสเจออันตรายได้เท่าๆ กันเลยค่ะ พยายามไปกันเป็นกลุ่ม หรืออย่างน้อยก็เป็นคู่

11. ให้เพื่อนรู้ตารางเวลาของเรา
     น้องควรบอกเพื่อนสนิทและรูมเมทเกี่ยวกับตารางเรียนของน้อง ว่ามีเรียนอะไร ที่ไหนบ้าง และวันไหนที่ต้องไปเที่ยวก็ต้องบอกเพื่อนๆ เสมอว่าจะไปที่ไหน กับใคร และคาดว่าจะกลับมาเมื่อไหร่เพื่อนจะได้รู้ว่าดึกขนาดไหนคือดึกเกินจนผิดสังเกตและจะได้ตามหาน้อง นอกจากนี้ควรให้เบอร์ติดต่อเพื่อนคนละกลุ่มไว้ด้วยอย่างกลุ่มอ่านหนังสือ กลุ่มวิชาเอกเดียวกัน กลุ่มเพื่อนในหอ หรือกลุ่มเพื่อนในชมรม เพื่อที่ถ้าเพื่อนคนไหนตามหาน้อง จะได้โทรไปหากลุ่มอื่นๆ ได้

12. จงตื่นตัวอยู่เสมอ
     อย่าเดินฟังเพลง เล่นเกมหรือเล่นโทรศัพท์ เพราะมันจะทำให้ประสาทตาและหูลดลง และน้องจะรู้สึกถึงอันตรายได้ไม่ไวพอ เดินไปไหนก็คอยสังเกตรอบตัวบ้างค่ะ ว่ามีใครอยู่บ้างและเขาทำอะไร รถที่จอดข้างทางมีคนนั่งอยู่ข้างในหรือเปล่า หรือมีใครท่าทางแปลกๆ อยู่แถวนั้นบ้าง และอย่าใจลอยด้วยนะคะ สังเกตทุกอย่างให้ดีค่ะ

13. เชื่อสัญชาตญาณของตัวเอง
     ถ้าเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่ากำลังถูกภัยร้ายคุกคาม ให้พาตัวเองไปอยู่ในที่สว่างๆ หรือที่ๆ มีคนเยอะๆทันทีค่ะ ถ้ากำลังอยู่ในที่มืดเปลี่ยว ให้วิ่งและส่งเสียงดังทันที จะได้เป็นจุดสนใจของคนอื่น เพราะถ้าทุกคนหันมามองเรา (แม้จะมองว่าเราบ้า) มิจฉาชีพก็จะไม่ลงมือกับคนที่กำลังเป็นจุดสนใจของคนอื่นอยู่หรอกค่ะ

14. อย่าให้ใครรู้ข้อมูลส่วนตัว
     ถ้าจะต้องเขียนชื่อลงบนสิ่งของเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของอย่าเขียนชื่อเต็มค่ะ ให้ใช้ชื่อเล่น ฉายา หรืออักษรย่อ (แต่อย่าบังเอิญไปซ้ำกับ Username ต่างๆ นะคะ) เด็กไทยชอบเขียนชื่อและนามสกุลเต็มยศบนหนังสือหรือสมุด แต่น้องๆ ควรใช้ตัวย่อแทนค่ะ เพราะบางคนเห็นชื่อนามสกุลจริงของเราแล้วอาจเอาไปใช้ทำอะไรไม่ดีก็ได้ค่ะ

15. ทำความรู้จักกับคนแปลกหน้าที่มีแนวโน้มจะต้องรู้จักกันอีกนานให้ดี
     ถ้าต้องไปเจอคนบางคนเป็นครั้งแรกอย่างมีนัดบอด หรือไปทำรายงานกลุ่มวิชานอกคณะกับเด็กคณะอื่นที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน ก็ให้นัดเจอกันในที่สาธารณะ และถามข้อมูลเช่น อยู่ชมรมอะไร เรียนเอกอะไร ใครเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา จากนั้นให้แอบส่งข้อความให้เพื่อนของน้องรู้ไว้ เพื่อนของน้องจะได้เอาไปเช็คว่าเขาน่าเชื่อถือจริงหรือไม่




Monday, February 11, 2013

ลาบหมูทอด

นำหมูบดใส่อ่างผสม

ปรุงรสด้วย  น้ำปลา  น้ำมะนาว  พริกป่น   ข้าวคั่ว  และแป้งโกกิ

คลุกเคล้าให้เข้ากัน


ใส่ผักที่ซอยเตรียมไว้ลงไป    หอมแดงซอย  ผักชีลาว  ผักชีฝรั่ง  ต้นหอมซอย



คลุกเคล้าให้เข้ากัน


ปั้นเป็นก้อนกลม 2 ขนาด


ทอดในน้ำมันร้อน


ตักขึ้นพักไว้


จัดใส่จานพร้อมผักแนม

ลองทำ ไก่กรอบ ฮอต แอนด์ สไปซี่ ..

สะโพกไก่ 2 ชิ้น
น่อง 4 ชิ้น
ปีก 4 ชิ้น
ผงปาปริก้า
พริกไทยดำบด (แล้วแต่คนนะค่ะ แต่ต้องการรสจัด ๆ กลิ่นจัด ๆ)
ผงกระเทียม (ไม่รู้นะ พอดีลองใส่ดูค่ะ ก็ได้กลิ่นเริ่สเชียว)
ผงปรุงรส
แป้งทอดกรอบ
ไข่ไก่


เริ่มจากล้างไก่ให้สะอาดแล้วก็ซับให้แห้งนะค่ะ บางสูตรก็บอกว่าให้แช่น้ำเกลือไก่จะได้มีรสชาติมากขึ้น แต่ป๊อปขี้เกียจค่ะ หิวมากหมักเลยดีกว่า


ผงปาปริก้าสาดลงไปเยอะ ๆ เลยค่ะ ถ้าเผ็ดไม่พอใส่พริกป่นไปเลยค่ะ พริกไทยดำบด ผงกระเทียม ผงปรุงรส แล้วก็คลุก ๆ หมัก ๆ ให้ทั่ว (แนะนำให้ใช้มือค่ะ) ..... แล้วมันก็จะออกมาหน้าตาแบบนี้นะ เค้าว่ากันว่าให้หมักไว้ 1 ชม. หรือยิ่งนานยิ่งดี


แต่ป๊อปหิวแล้วอะ ไม่รอแล้ว จับไปอาบน้ำทาแป้งกันดีกว่าค่ะ
ชามที่ 1 นำไข่ไก่ใส่ลงไปแล้วก็ตีให้แตกนะค่ะ 
ชามที่ 2 นำแป้งทอดกรอบ ผงปรุงรส แล้วก็พริกปาปริก้า ผงกระเทียม คลุก ๆ ให้เข้ากันค่ะ


นำไก่มาเลยค่ะ 
คลุกไข่ไก่ให้ทั่ว


แล้วก็นำมาคลุกแป้งให้ทั่วเช่นกัน ยัด ๆ เข้าไปใต้หนังด้วยนะ 


เคาะ ๆ แป้งให้หลุดให้หมดนะค่ะ ตามสูตรเค้าให้นำไปทอดเลยค่ะ แต่ป๊อปไม่ เรามาคลุกไข่ไก่อีกรอบ


แล้วก็นำมาึคลุกแป้งเช่นเดิม แต่ทีนี้มันจะหนามากขึ้นค่ะ อยากจะทำซ้ำอีกก็ได้นะค่ะ แต่ป๊อปพอและ รอบนี้ป๊อปไม่ได้เคาะแป้งออกนะ ต้องการแป้งหนา ๆ กรอบ ๆ


มองเห็นไก่กันเปล่าค่ะ ดูดี ๆ สิ
.... จ๊ะเอ๋ อยู่นี่ไงค่ะ ^^


เสร็จแล้ว เราก็นำไปทอดกันดีกว่าค่ะ
ป๊อปใช้หม้อนะค่ะ จะได้ไม่เปลืองน้ำมัน ใส่น้ำมันอย่าให้เต็มหม้อละ เดี๋ยวพอใส่ไก่ลงไปแล้วน้ำมันจะฟู แล้วน้ำมันก็จะล้นออกมา ทำให้ต้องมานั่งทำความสะอาดกันอีก อะ เรามาว่ากันต่อค่ะ ตั้งไฟแรงเลยนะค่ะ ให้น้ำมันร้อนจัด ๆ แล้วก็ใส่ไก่ลงไป จึงหรี่ให้เหลือไฟกลาง - อ่อนค่ะ


เค้าว่ากันว่าให้ทอดประมาณ 15 นาที แต่ป๊อปไม่ถึงนะค่ะ กะ ๆ เอา พอให้ไก่สีสวย ออกเป็นสีทอง และแล้ว เรา เรา เรา ก็จะได้แบบนี้ค่ะ


ว้าย ๆ เจ้าดังกระเด็นค่ะ 5555


และแล้ว ถึงเวลาที่เราต้องมีชื่อการค้าเป็นของตัวเอง ขอตั้งชื่อว่า ... ไก่กรอบ ฮอต แอนด์ สไปซี่ ... kfตุ๊ด


สำเร็จแล้วค่ะ 
เรามาสรุปกันดีกว่าค่ะ
1. รสชาติก็เหมือนดีนะค่ะ ทั้งแป้ง ทั้งเนื้อไก่ อร่อยมาก จะว่าเหมือนก็ไม่ได้ ต้องเรียกว่าใช่เลย
2. คุณรู้หรือเปล่า ถ้าคุณไปซื้อ ไก่ทอด 10 ชื้นแบบเลือกชิ้น คุณจะเสียเงินถึง 360 บาท + ค่าส่งอีก 30 เป็น 390 เชียวนะ
3. ทั้งหมดที่ทำมา ป๊อปหมดเงินไปทั้งหมด 170.25 บาทค่ะ
4. แนะนำให้ลองเอาไก่ชิ้นเล็ก ๆ หมักแล้วก็ทอดดูก่อนนะค่ะ ว่าหน้าตาแล้วรสชาติจะเหมือนหรือเปล่า ถ้าเหมือนก็ลุยกันเลยค่ะ ^^