Thursday, September 29, 2011

กล้วยไข่เชื่อม

http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/00000.jpg
กล้วยไข่เชื่อม พร้อมกะทิราดที่เข้มข้น หวานมัน ..... อีกหนึ่งเมนูขนมหวานๆ สไตล์ไทยๆ ที่ทำง๊ายง่าย หากใครสนใจ มาติดตามชมกันเลยค่ะ
"กล้วยไข่เชื่อม" ... เป็นขนมหวานอย่างนึงค่ะที่เวลาไม่รู้ว่าจะทำขนมอะไรไว้กินหลังกินข้าวดี  ก็จะทำขนมนี้กันล่ะค่ะ ... ถ้าจะถามว่าทำบ่อยขนาดไหน  ก็คงจะตอบได้ว่าทำประมาณอาทิตย์เว้นอาทิตย์เลยนะคะ  เหตุผลก็เพราะว่ามันทำง๊ายยยง่าย  อีกทั้งที่วัตถุดิบทั้งหลายแหล่ที่ใช้ทำ  ไม่ว่าจะกล้วยไข่ห่ามๆ น้ำตาลทราย  มะพร้าวขูด .. พวกนี้ .... ที่บ้านพิมก็มักจะมีติดบ้านอยู่เสมอๆ  เพราะงั้นเมื่อเวลานึกอยากจะทำ ก็เลยทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องไปหาอะไรที่ไหนไกล...... และวันนี้ก็เป็นอีกวันนึงที่บ้านพิมทำกล้วยไข่เชื่อมกัน  ก็เลยขอถ่ายรูปวิธีการทำเอามาฝากเพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยทำ (และก็เคยแล้ว) ให้ดูกันน่ะค่ะ
และก็นี่ค่ะ ... กล้วยไข่เชื่อม .. บ้านพิม สีเหลืองอ๋อย น่ากินมากๆ เลย (เน๊าะ)
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-019.jpg
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-022.jpg
ซึ่งวันนี้จะว่าไป ... พิมไม่ขอพูดพล่ามทำเพลงล่ะนะคะ เนื่องจากหันหน้าไปดูนาฬิกาแล้วก็พบว่ามันเที่ยงคืนกว่าแล้ว ขืนพูดเยอะๆ บรรยายแยะๆ เกรงว่ากว่าจะเสร็จ และกว่าจะได้นอน คงปาไปไม่ต่ำกว่าตี 1 1/2 แน่นอน ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นสงสัยพรุ่งนี้พิมคงจะตื่นตี 5 อย่างที่ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ไม่ไหวแน่ ๆ เพราะงั้นขอลุยไปที่สูตรและก็วิธีทำตามแบบของพิมกันเลยล่ะกันนะคะ
:: ส่วนประกอบ/วัตถุดิบ ::
- กล้วยไข่ห่ามๆ 2 หวี
- น้ำตาลทรายขาว 450 กรัม
- น้ำสะอาด 400 กรัม
- หัวกะทิ 2 ถ้วย
- แป้งอเนกประสงค์ 1.5 ชต.
- เกลือป่น หยิบมือ
ป.ล. พิมถ่ายรูปมาไม่ครบนะคะ แบบว่าสถานการณ์และเวลาไม่ค่อยอำนวย
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-010.jpg
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้นเราก็มาทำหัวกะทิสำหรับราดหน้ากล้วยไข่เชื่อมกันไว้ก่อนเลยค่ะ ... โดยพิมมีวิธีทำให้เลือกทำ 2 แบบค่ะ
- แบบที่ 1 สำหรับหัวกะทิที่คั้นโดยไม่ใช้น้ำ .... ให้เอาหัวกะทิผสมเกลือป่นนิดหน่อย แล้วนำไปตั้งไฟอ่อน คนไปเรื่อยๆ ด้วยความใจเย็น สักพักกะทิจะข้นขึ้นเองค่ะ  แต่ต้องใช้เวลาหน่อยนะคะ
- แบบที่ 2 สำหรับหัวกะทิที่คั้นแบบใส่น้ำ / กะทิกล่อง .... ให้เอาหัวกะทิ 2 ถ้วย ผสมกับแป้งข้าวอเนกประสงค์ 1.5 ชต. และเกลือป่นหยิบมือ (นิดหน่อย ใส่พอให้มีรสเค็มปะแหล่มๆ) ค่ะ .... คนๆ ให้แป้งละลายเข้ากับหัวกะทิก่อน แล้วค่อยนำไปตั้งไฟกลางๆ  .. ระหว่างตั้งไฟก็ใช้ตะกร้อมือคนเรื่อยๆ  จนกระทั่งแป้งสุก กะทิข้นก็เป็นอันใช้ได้ค่ะ
ซึ่งพอกะทิสุกข้นแล้ว ก็ยกลงจากเตา ตั้งพักไว้ให้เย็นค่ะ
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-023.jpg
จากนั้นหันมาเตรียมทำตัวกล้วยไข่เชื่อมกัน ต่อ ..... โดยการเลือกใช้กล้วยไข่ห่าม ๆ หน่อย ออกสีเขียวมากกว่าสีเหลืองแบบในภาพค่ะ  (แต่สำหรับคนที่ชอบกล้วยไข่เชื่อมนิ่ม ๆ ก็สามารถจะเลือกใช้กล้วยไข่ที่มีสีเหลืองมากกว่านี้หน่อยก็ได้ค่ะ  แต่อย่าให้เหลืองมากไป ไม่งั้นเวลาเอาไปเชื่อม มันจะเละค่ะ)
ป.ล. ถ้าไม่ชอบกล้วยไข่ ใช้กล้วยหักมุก หรือกล้วยงาช้างเชื่อมแทน ก็อร่อยไม่แพ้กันเลยค่ะ
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-008.jpg
ก็ปอกเปลือกกล้วยไข่นะคะ (ยิ่งเขียวมากยิ่งปอกยาก) ถ้ามีเส้นดำๆ ก็ดึงออกให้หมด แล้วตัดหัวตัดท้ายสักหน่อยเพื่อความสวยงาม ... ปอกเสร็จก็ใส่ลงไปแช่ไว้ในน้ำที่ผสมน้ำเกลือนิดหน่อย เพื่อไม่ให้กล้วยเปลี่ยนเป็นสีคล้ำๆ อ่ะค่ะ
ป.ล. หากปอกแล้วเชื่อมเลย ก็ไม่ต้องแช่น้ำผสมเกลือค่ะ
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-009.jpg
จากนั้นก็หันมาเคี่ยวน้ำเชื่อมไว้สำหรับเชื่อมกล้วยค่ะ โดยการผสมน้ำตาลทรายกับน้ำสะอาดลงในภาชนะที่เราจะใช้เชื่อมกล้วย
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-011.jpg
ซึ่งในวันนี้พิมใช้กระทะธรรมดานะคะ  หากเพื่อนๆ มีกระทะทองจะใช้กระทะทองก็ได้ค่ะ แต่ถ้าไม่มีใช้กระทะธรรมดาแบบพิม หรือหม้อ หรือพวกกระทะเทฟล่อนก็ได้เหมือนกันค่ะ
ผสมน้ำกับน้ำตาลทรายเข้าด้วยกันแล้วนำไป ตั้งไฟ  คนให้ละลาย (จะได้เป็นน้ำเชื่อม)  แล้วนำมาลงกรองด้วยผ้าขาวบางหรือกระชอนตาถี่ๆ ครั้งนึง   จากนั้นก็เทใส่กลับคืนหม้อ แล้วนำไปตั้งไฟเคี่ยวต่อ  โดยเราจะเคี่ยวน้ำเชื่อมไปเรื่อย ๆ ค่ะ...แรกๆ ตอนน้ำเชื่อมยังใสอยู่ เราจะเห็นว่าฟองตอนเดือดเค้าจะเป็นฟองค่อนข้างใหญ่   แต่เมื่อยิ่งน้ำเชื่อมข้นมากขึ้นเท่าไหร่ ฟองก็จะยิ่งเล็กลงค่ะ
ซึ่งเราจะเคี่ยวน้ำเชื่อมให้ลดลงไปประมาณ 1/4 นะคะ ....  ก็จะได้น้ำเชื่อมที่มีความเหนียวได้ที่  แล้วเราก็ค่อยเอากล้วยไข่ที่เราปอกไว้ใส่ลงไปเชื่อมค่ะ
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-012.jpg
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-013.jpg
การเชื่อมกล้วยเนี่ยเราจะต้องใจเย็นๆ นะคะ จะใจร้อนเร่งไฟแรงๆ  กะว่าไฟแรงแป๊บเดียวจะใช้ได้ ... อันนี้ไม่ใช่เลยค่ะ
การเชื่อมกล้วยไข่ (หรือเชื่อมอะไรก็แล้วแต่) ให้ใช้ไฟกลางๆ ค่อนมาทางอ่อนสักหน่อย  เพื่อค่อยๆ ให้น้ำเชื่อมซึมเข้าไปในเนื้อกล้วย  พร้อมกับความร้อนจากน้ำเชื่อมที่จะทำให้กล้วยค่อย ๆ ระอุ และก็สุกในที่สุดพร้อมๆ กับซึมซับน้ำเชื่อมได้เต็มที่
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-014.jpg
และก็นี่นะคะ ... กล้วยไข่เชื่อม ที่เชื่อมได้ที่แล้ว  หน้าตาจะเป็นประมาณนี้  (มีสีเหลืองเข้มสม่ำเสมอกัน) ......  ซึ่งถ้าหากเราใช้กล้วยไข่ห่ามๆ หน่อย กล้วยเชื่อมที่ได้ก็จะมีลักษณะแบบนี้อ่ะค่ะ ก็คือ เนื้อไม่นิ่มมาก  หวาน หอม และก็ชุ่มไปด้วยน้ำเชื่อมทั้งลูก .....  แต่ถ้าหากเราใช้กล้วยสุกเหลืองกว่านี้ กล้วยไข่เชื่อมที่ได้ อาจจะลักษณะแตกหักเป็นช่วงๆ  และเนื้อจะค่อนข้างนิ่ม  ซึ่งบางคน เช่น แม่ของพิม จะชอบมากกว่ากล้วยไข่เชื่อมแบบในภาพนี่อ่ะค่ะ
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-015.jpg
ดูกันอีกทีใกล้ๆ .... เมื่อเชื่อมได้ที่  จะเงาเป็นประกาย ปิ๊งๆๆๆ เลยค่ะ
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-016.jpg
ที่นี้เวลาจะกิน .... บางคนก็ชอบกินกล้วยไข้เชื่อมเพียว ๆ ไม่ต้องราด ไม่ต้องทำอะไรเลย  แต่พิมชอบแบบราดด้วยหัวกะทิข้นๆ เยอะๆ หน่อยอย่างในภาพนี้มากกว่าอ่ะค่ะ
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-017.jpg
และสำหรับจานนี้ ..... พิมขอยกให้เพือ่นๆ ทุกคนที่เข้ามาดูขนมหวานเมนูนี้เลยนะคะ  ^__^
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-020.jpg
รับสักลูก .......... ไหมค่ะ ^^
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-019.jpg
ก็ .. ถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจลองไปทำดูนะคะ  ไม่ยากจริงๆ ค่ะ  ... แรกๆ ทำอาจจะกะจังหวะไม่ถูกว่ามันจะเชื่อมได้ที่ตอนไหน  แต่ทำๆ ไปเดี๋ยวก็เก่งเองค่ะ  ... พิมรับรอง ^^ ... แล้วเจอกันใหม่เมนูหน้านะจ๊ะ ตอนนี้ไปนอนก่อนล่ะค่า
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-022.jpg
ป.ล. แถม ๆ...... บางทีพิมก็อยากเปลี่ยนวิธีกินกล้วยไข่เชื่อมบ้าง ด้วยการเอาน้ำกะทิธรรมดาๆ นี่แหละค่ะ ไปต้มให้สุก  แล้วก็เอากล้วยไข่เชื่อมใส่ลงไป ตั้งไฟให้เดือดอีกที ... ก็ปิดไฟ ตักขึ้นใส่ถ้วย ราดหัวกะทิข้นๆ ... กลายเป็นกล้วยไข่บวดชีประยุกต์ ..... ก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ ^^
http://pim.in.th/images/all-thai-sweet/banana-in-syrup/banana-in-syrup-021.jpg

มะม่วง-น้ำปลาหวาน

http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-01.JPG
เมื่อคืนตอนดึก นึกยังไงไม่รู้ค่ะอยากกินมะม่วงน้ำปลาหวานเอามาก ๆ ซะงั้น  ครั้นจะไปซื้อน้ำปลาหวานกระปุกที่เซเว่นมากิน ก็นะ...แพงค่ะ กระปุกละตั้ง 50 อ่ะ เลยอดใจรอไว้ทำกินตอนเช้าดีกว่าค่ะ
พอเช้ามา .... สะสางการงานเสร็จไปเปลาะนึง ถึงเวลาพักสายตา ก็เลยไปนั่งรื้อ ๆ ตู้เย็นดูค่ะว่าวัตถุดิบที่เราจะใช้ทำน้ำปลาหวานเนี่ย มันมีครบหรือเปล่า ปรากฎว่า.....ขาดกุ้งแห้งค่ะ >_<"  ไอ้ที่ว่าวันนี้จะไม่ต้องออกนอกบ้านไปไหนก็เลยต้องออกไปซื้อกุ้งแห้งอ่ะค่ะ  ดีว่าร้านขายของชำแถวบ้าน (เดินไปไม่ถึง 50 เมตร)  เค้ามีขายอยู่ขีดละ 60 บาท ก็เลยซื้อเค้ามาซะครึ่งขีดค่ะ ไม่ต้องออกไปถึงหน้าปากซอยอ่ะ  (ไม่งั้นเสียเงินค่ารถอีก ม่ะคุ้มอ่ะ ไปกลับหน้าปากซอย 50 บาทแหละ >_<")
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-02.JPG
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-04.JPG
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-03.JPG
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-06.JPG
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- น้ำตาลมะพร้าวอย่างดี 400 กรัม
- น้ำสะอาด 1/2 ถ้วย
- น้ำปลาดี ๆ  1/4 ถ้วย
- กะปิ 2 + 1/2 ชต.
- กุ้งแห้งเนื้อป่น  35 กรัม
- หอมแดง 50 กรัม ...................... ใครชอบน้อยกว่านี้ ก็ใส่น้อยกว่านี้ได้นะคะ
- พริกขี้หนูสวนซอยละเอียด ๆ  / พริกแห้งคั่วป่น / พริกแห้งซอยละเอียด ปริมาณตามชอบ ....... (จะใส่อย่างใดอย่างนึง หรือใส่รวมกันหลายพริกก็ได้ค่ะ)
ป.ล. ปริมาณน้ำตาล น้ำปลา อาจจะต้องใช้มากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นอยู่กับความหวานของน้ำตาล ความเค็มของกะปิด้วยนะคะ
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-09.JPG
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-15.JPG
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเลยมาดูที่น้ำตาลกันก่อนนะคะ วันนี้พิมเลือกใช้น้ำตาลมะพร้าวค่ะ ... เหตุผลเพราะน้ำตาลมะพร้าวมีกลิ่นหอมที่เหมาะกับการทำขนมไทยหรือของกินเล่น ประเภทนี้ค่ะ  แต่ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มีน้ำตาลมะพร้าว จะใช้น้ำตาลปี๊บแทนก็ได้นะคะ ขอให้เลือกอย่างดีหน่อย เพราะจะได้มีกลิ่นรสที่หวานหอมอ่ะค่ะ
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-10.JPG
ส่วนกะปิ ... พิมใช้กะปิคลองโคน ที่เพิ่งถอยมาจาก HFM  ค่ะ (แต่ยี่ห้อนี้ ไม่หอมเท่าที่เค้าโฆษณาไว้หน้ากระปุกเลย เพราะที่ซื้อแบบชาวบ้านที่เมืองจันทบุรีทำเป็นกิโล ๆ หอมกว่าเยอะ .....  แอบผิดหวังอ่ะ) ..... และสำหรับน้ำปลา ก็ยี่ห้อตามด้านบนเลยนะคะ
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-11.JPG
เริ่มต้น ....... ก็เอาน้ำตาลใส่ลงในหม้อที่เราจะใช้ทำน้ำปลาหวานกันนะคะ (หม้อที่ตั้งไฟได้)  เทน้ำสะอาดกับน้ำปลาตามลงไป
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-12.jpg
ยกหม้อขึ้นตั้งเตาไฟ เปิดไฟกลาง ๆ (อย่าใช้ไฟแรงนะคะ ไม่งั้นขอบ ๆ หม้อจะมีรอยไหม้ซะก่อน) ......   ก็ตั้งไฟไปสักแป๊บนึง  คนด้วยเป็นระยะ ๆ ไม่นานน้ำตาลในหม้อก็จะละลายหมดค่ะ   และพอน้ำตาลละลายหมดก็ปิดไฟเตาแป๊บนึง  ใส่กะปิลงไป  แล้วใช้ปลายทัพพีตี ๆ ให้กะปิแตกตัวออกสักนิดนึง  แล้วก็ตั้งไฟกลางๆ  ค่อนมาทางอ่อนอีกรอบ  คนไปเรื่อย ๆ กะปิก็จะเนียนไปกับน้ำปลาหวานล่ะค่ะ  ........    จากนั้นก็หรี่ไฟเหลือไฟอ่อน ๆ เคี่ยวไปสัก  15 นาทีเพื่อให้น้ำปลาหวานมีความเหนียวและข้นมากขึ้นอ่ะค่ะ
ป.ล. เหตุผลที่พิมละลายกะปิใส่ทีหลัง เพราะพิมรู้สึกว่าถ้าละลายในน้ำร้อน กะปิจะละลายง่ายกว่า และไม่ค่อยเป็นก้อนอ่ะค่ะ  แต่ถ้าเพื่อน ๆ สะดวกจะละลายไปพร้อมกับตอนใส่น้ำตาลปี๊บเลย ก็เอาตามถนัดเลยค่ะ ^^
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-13.jpg
แล้วเมื่อเคี่ยวไปครบ 15 นาทีแล้ว  เราก็จะได้น้ำปลาหวานเพียว ๆ (ที่ยังไม่ได้ใส่เครื่องอะไรเลย) หน้าตาประมาณนี้นะคะ
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-14.JPG
จากนั้นก็ตั้งทิ้งไว้ให้น้ำปลาหวานอุ่น ๆ สักหน่อยนึง ก็ค่อยใส่กุ้งแห้งป่น หอมแดงซอยบาง ๆ และพริกตามลงไป  คนให้เข้ากันอีกที ........ ก็เป็นอันว่าเราจะได้น้ำปลาหวานทรางเครื่องที่พร้อมจะเอาไปจิ้มกับอะไรๆ แล้วล่ะค่ะ   .... ซึ่งน้ำปลาหวานในชามด้านล่างนี่อ่ะ  เราสามารถเก็บใส่กระปุกแช่ตู้เย็นไว้กินได้เป็นอาทิตย์สองอาทิตย์เลยค่ะ   (แต่เอาจริง ที่บ้านพิม....มันหมดภายใน 2 วันล่ะค่ะ  อยู่ไม่ถึง 2 อาทิตย์หรอกอ่ะ >_<")
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-16.jpg
นี่ค่ะ ... ดูหน้าตากันชัด ๆ ว่าเจ้มมมมจ้นนน ขนาดไหน  ขอบอกว่าหาซื้อแบบนี้ที่ไหนก็ไม่มีขายนะคะ (นอกจากทำเองอ่า)
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-17.JPG
แต่นะคะ ..... มีน้ำปลาหวานแล้ว ... แต่ยังไม่มีมะม่วงเลย  เพราะงั้นไปสอยมะม่วงกันดีกว่าค่า  ซึ่งตอนนี้ที่บ้านพิมอ่ะมีมะม่วงที่กำลังออกลูกอยู่ด้วยกัน 4 พันธุ์ค่ะ  ก็คืออ.อ.อ.อ.อ..อ มะม่วงสามฤดู (หรือที่เรียกกันว่ามะม่วงทวาย)  มะม่วงแรด  มะม่วงน้ำดอกไม้ และก็มะม่วงมันขุนศรีค่ะ (อันหลังนี่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดูนะคะ ขี้เกียจบุกป่าฝ่าดงเตยเข้าไป มันคัน >_<")  เพื่อน ๆ ชอบพันธุ์ไหนก็สอยกันเอาตามชอบเลยค่ะ
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-08.jpg
ส่วนพิมน่ะ .... ชอบมะม่วงแรดเป็นพิเศษ เพราะมันเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ มัน ๆ ดี   ก็เลยสอยมะม่วงแรดมาซะ 2 ลูกค่ะ
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-18.JPG
และก็เอามาล้างน้ำ - ปอกเปลือก - ล้างน้ำซะอีกรอบ  ก่อนที่จะหั่นเป็นชิ้นบางๆ (แต่ไม่ต้องบางมาก เดี๋ยวเคี้ยวไม่อร่อย) แบบในภาพด้านล่างอ่ะค่ะ ^^
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-19.jpg
จากนั้นก็เอาไปเรียงในจานให้สวยงาม ... ^^  (เกสรตรงกลางเป็นกุ้งแห้งป่นค่ะ)
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-03.JPG
และแล้วเราก็จะได้ มะม่วง-น้ำปลาหวาน รสชาติเข้มข้น ออกมาหน้าตาประมาณนี้ล่ะจ้า
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-21.JPG
ดูกันชัด ๆ กับหน้าตาน้ำปลาหวาน
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-22.JPG
กลัวเพื่อน ๆ จะไม่รู้ว่ามันเข้มข้นขนาดไหน พิมก็เลยลองจิ้มให้ดูค่ะ   (จริง ๆ มีภาพกำลังกินด้วยนะคะ แต่ดูแล้วเพื่อน ๆ อาจจะไม่สบายตา เลยตัดออกไป ฮ่ะๆ)
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-02.JPG
ก็ยังไงถ้าเพื่อนๆ สนใจ ลองไปทำกันดูนะคะ  ... ทำไม่ยากอ่ะ  ยิ่งตอนนี้มะม่วงถูกมากก.ก.ก.ก.ก.ก.ก  แถวบ้านพิมลูกใหญ่ ๆ พันธุ์ไหน ๆ ก็โลละไม่เกิน 15-20 บาท  ใครที่อยากจะกินมะม่วงน้ำปลาหวานก็รีบทำกินกันซะตอนนี้เลยนะคะ ^^
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-20.JPG
และก็ขอจากไปด้วยภาพนี้ล่ะค่ะ ^^
http://pim.in.th/images/all-snacks/namplawan/namplawan-07.JPG

ข้าวมันไก่ย่างตะไคร้

http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-01.JPG
วันก่อนไปซื้อไก่ย่างของลุงขายไก่ย่างแถว บ้านมากินกับข้าวมันไก่เจ้าอร่อย (แถวบ้านอีกนั่นหละ)  ปรากฎว่ามันอร่อยมาก จนนึกอยากจะทำกินเอง วันนี้เลยขอคุณสามีแว๊บๆ ไปตลาดสดแถวบ้าน ซื้อของมาทำข้าวมันไก่ย่างตะไคร้กินกันสองคนค่ะ
......... ใจจริงวันนี้พิมไม่ได้ตั้งใจจะทำเมนูนี้เลยค่ะ  แต่อยากจะทำเมนู "ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ" ซะมากกว่า  ทั้งอยากกินเองและก็อยากจะทำตามรีเควสที่เพื่อน ๆ ขอเอาไว้    แต่พอไปถึงตลาดสดแถวบ้าน (ก็ว่าใหญ่แล้วนะคะ ใหญ่ที่สุดในเส้นลาดพร้าวแล้วอ่ะ)   แต่เดินจนทั่วตลาดก็หามะดัน มะอึก กับระกำเปรี้ยวไม่ได้เลย  โครงการทำข้าวผัดน้ำพริกลงเรือก็เลยต้องพับไป บวกกับเหลือเวลาน้อยเต็มที่ (ไปจ่ายตลาดเอาตอนเกือบบ่ายโมง)  คิดไปคิดมาเลยตัดสินใจว่าทำข้าวมันไก่ย่างตะไคร้แทนก็ได้  ส่วนข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ ... ไว้อาทิตย์หน้ารอให้หาวัตถุดิบได้พร้อม ๆ ก่อนแล้วกัน (เน๊าะ)
สำหรับเมนูข้าวมันไก่ย่างตะไคร้เนี่ย  พิมก็จับเอาข้าวมันที่ใช้ในข้าวมันไก่ปกติ (ปรุงรสเพิ่มนิดหน่อย) มารวมกับไก่ย่างตะไคร้สูตรอร่อยของพิมอ่ะค่ะ    ... ก็จะได้มาเป็นข้าวมันไก่ย่างตะไคร้จานนี้   ซึ่งดูเผิน ๆ ก็อาจจะธรรมดา ๆ แต่ขอบกว่า อร่อยนะคะ ^^
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-03.JPG
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-27.JPG
ส่วนวิธีการทำ .... เนื่องจากว่าอาหารจานนี้มีส่วนประกอบ 2 ส่วนด้วยกัน ซึ่งก็คือ ส่วนของ "ข้าวมัน" กับส่วนของ "ไก่ย่างตะไคร้"  ดังนั้นพิมขอพูดแยกทีละส่วนล่ะกันนะคะ จะได้ไม่งง (พิมเองแหละค่ะ ที่จะได้ไม่งง) ...... อันดับแรกก็มาดูวิธีทำข้าวมันกันก่อนเลยค่ะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "ข้าวมัน" ::
- ข้าวสารเก่าๆ (ข้าวหอม) 1 1/2 ถ้วย
- ข้าวเหนียวเก่าๆ 1/4 ถ้วย
- น้ำมันไก่ 5 ชต.
- กระเทียมไทย 10 กลีบ
- ขิงแก่ขนาดใหญ่กว่าแม่นิ้วโป้งหน่อยนึง  1 ชิ้น
- น้ำซุปไก่ 3 ถ้วย
- เกลือป่น 1 ชต.
- น้ำตาลทรายขาว 1 ชต.
ป.ล. ปริมาณน้ำซุปที่ใช้เนี่ย ขึ้นอยู่กับข้าวที่ใช้ด้วยนะคะ .. เวลาจะทำก็ให้ยึดเอาการหุงข้าวที่เพื่อน ๆ หุงทุกวันเป็นหลักอ่ะค่ะ ซึ่งอาจจะมากหรือน้อยกว่า 3 ถ้วย ก็แล้วแต่ข้าวของเพื่อน ๆ นะคะ
ป.ล. ปริมาณเกลือป่น กับน้ำตาลที่ใช้   ก็ขึ้นอยู่กับน้ำซุปด้วยจ้า
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-17.JPG
:: วิธีทำ "ข้าวมัน" ::
เริ่มต้นเลยก็เอาข้าวสารกับข้าวเหนียวมาผสมกันนะคะ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-18.JPG
แล้วก็นำไปซาวด้วยน้ำสะอาด 1 น้ำ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-199.JPG
จากนั้นก็เทใส่กระชอนโปร่ง ๆ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-20.JPG
ระหว่างรอข้าวสารสะเด็ดน้ำดี  ก็ให้เรานำขิงแก่ไปล้างให้สะอาด ปอกเปลือก แล้วนำมาฝานไว้เป็นแผ่นค่ะ ไม่ต้องให้บางมาก / ส่วนกระเทียมไทยก็ตัดหัวท้ายที่แข็ง ๆ ออก แล้วทุบพอแตกนะคะ (ไม่ต้องสับให้ละเอียด)
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-21.JPG
จากนั้นก็ตั้งกระทะบนเตาไฟนะคะ ใช้ไฟกลาง ๆ เทน้ำมันไก่ใส่ลงไป .. พอน้ำมันเริ่มร้อนก็ใส่กระเทียมกับขิงลงไปเจียวให้พอหอม ๆ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-22.jpg
แล้วก็เทข้าวสารที่สะเด็ดน้ำดีแล้ว ลงไป.... (จะได้ยินเสียงฉี่ฉ่า ฉี่ฉ่า.... ^^)  ผัดให้น้ำมันไก่เคลือบข้าวสารทุกเม็ด
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/01.jpg
แล้วทำกาปรุงรสข้าวของเราด้วยน้ำตาลกับเกลือป่นอย่างละนิด .... ผัดให้เข้ากันอีกที แล้วทิ้งระยะเวลาไว้สักแป๊บนึง
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-24.jpg
ก็เทข้าวสารพร้อมขิงกระเทียมที่อยู่ใน กระทะ ลงไปในหม้อหุงข้าว  ... แล้วก็เทน้ำซุปใส่ตามลงไป  คนด้วยตะหลิวหรือทัพพีให้ข้าวกระจายตัวกันดีค่ะ    ก่อนจะนำไปหุงตามปกติ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-25.jpg
และหลังจากผ่านไปประมาณ 1/2 ชม.นิด ๆ  ... เราก็จะได้ "ข้าวมัน"  ออกมาหน้าตาแบบนี้นะคะ  หอมขิงกระเทียมมากๆ และได้กลิ่นไก่พอประมาณ  แต่จะไม่ค่อยมันมากเหมือนตามร้านขายข้าวมันไก่สักเท่าไหร่  (พิมตั้งใจให้เป็นเช่นนั้นค่ะ) ... จากนั้นก็ปิดฝาหม้อ พักเอาไว้ก่อนค่ะ  เราจะหันไปทำตัว "ไก่ย่างตะไคร้กันต่อ"
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-26.JPG
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "ไก่ย่างตะไคร้" ::
- สะโพกไก่ชิ้นใหญ่ 4 ชิ้น
- ตะไคร้ 80 กรัม
- ข่าแก่ขนาดเล็กกว่านิ้วโป้งนิดหน่อย 1 ชิ้น
- รากผักชี 3 ราก
- นมข้นจืด 3 ชต.
- น้ำตาลทราย 3 1/2 ชต.
- ซีอิ๊วขาว 3 ชต.
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-05.JPG
:: วิธีทำ "ไก่ย่างตะไคร้ ::
เริ่มต้นก็ให้เราเอาสะโพกไก่ไปล้างทำความสะอาด แล้วใส่ตะกร้าโปร่งพักไว้ให้สะเด็ดน้ำนะคะ ... พอไก่สะเด็ดน้ำดี ก็ให้เราเอาไก่แต่ละชิ้นมาวางบนเขียง โดยให้ด้านที่เป็นหนัง คว่ำลงแบบในภาพอ่ะค่ะ  จากนั้นก็ให้เราเอามีดคมๆ สักหน่อย ทำการแล่เนื้อไก่ด้านซ้ายขวาของกระดูกออก โดยแล่ออกด้านข้าง ๆ ละ 1 ครั้ง  (แต่ไม่ให้เนื้อขาดออกจากกัน  ยังคงให้เป็นชิ้นเดียวกันอยู่)   เพื่อให้น้ำหมักของเราซึมเข้าเนื้อไก่ได้ง่ายขึ้น และก็เวลาย่างก็จะสุกเร็วขึ้นอ่ะค่ะ ........ ซึ่งเมื่อแล่เนื้อทั้งสองด้านออกแล้ว ชิ้นไก่ของเราจะแลดูใหญ่ขึ้นอย่างในภาพมุมขวาล่างนะคะ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-12.jpg
จากนั้นก็พักไก่เอาไว้ก่อน หันมาจัดการกับข่า ตะไคร้ รากผักชีกันบ้าง
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-06.JPG
โดยให้เรานำเจ้าสมุนไพรทั้ง 3 อย่างเนี่ย มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ  ค่ะ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-08.jpg
แล้วนำไปโขลกรวมกัน (ใส่พริกไทยป่นไปด้วย) ให้มีลักษณะแบบในภาพด้านล่าง
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-09.JPG
จากนั้นก็ตักเครื่องที่เราโขลกไว้แล้วใส่ลงในกาละมังใบย่อม ๆ สักใบ  เติมน้ำตาลทราย นมข้นจืด และก็ซีอิ๊วขาว ลงไป
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-10.jpg
คนให้เข้ากันดี และน้ำตาลละลายหมด  (ในภาพยังละลายไม่หมดดีนะจ๊ะ)
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-11.JPG
ก็หยิบไก่ที่เราแล่เอาไว้แล้ว ใส่ลงไป  ... จัดการคลุกเคล้านวดเบา ๆ ด้วยมือให้เครื่องหมักเข้ากันดีกับชิ้นไก่
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-13.jpg
แล้วก็นำไปแช่ตู้เย็นไว้ประมาณ 1 ชม. ค่ะ  ( ... ก็จะได้ออกมาเป็นแบบในภาพนี้นะคะ .... )
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-14.JPG
และก่อนที่จะนำไปย่าง  เพื่อความสะดวกไม่ต้องมาคอยหาที่คีบเวลาจะพลิกไก่ย่าง และเพื่อความสวยงาม ไก่ไม่หดตัว ... ก็ให้เราหาไม้เสียบปลา (เช่นไม้เสียงปลาดุกย่าง) หรือถ้าไม่มีก็ใช้ไม้เสียบลูกชิ้น 2 อันก็ได้ค่ะ  .. เสียบไก่ให้มีลักษณะแบบในภาพ  แล้วก็พยายามรูด ๆ เอาตะไคร้ออกจากชิ้นไก่ให้เหลือน้อยที่สุดก่อนนำไปย่างนะคะ เวลาย่างจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องไหม้อ่ะค่ะ  (หรือมีน้อยลงนะจ๊ะ)
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-15.JPG
จากนั้นก็นำไปย่างบนเตาถ่าน (หรือจะเตาอย่างอื่นก็ได้ค่ะตามสะดวก แต่เตาอันนี้หอมสุดแล้ว ^^)  จนกระทั่งสุกเหลืองดีทั้งสองด้าน ก็ใช้ได้ค่ะ
ป.ล. ระหว่างย่าง ให้ดูเรื่องความแรงของไฟให้ดีนะคะ อย่าเผลอแบบพิม .... เพราะตอนพิมย่างไก่อยู่ที่เตานี้   พิมก็ไปทำกับข้าว+ถ่ายรูป อยู่ที่เตาอีกเตานึงค่ะ  ห่างจากเตาย่างไก่ประมาณ 6 เมตร (แบบว่าเวลามีน้อยเน้อ...ออ)  วิ่งไปวิ่งมา ... ปรากฎว่าไม่ทัน หนังไก่บางชิ้นไหม้แบบในภาพเลยค่ะ >_<"
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-16.JPG
และแล้ว ........... เมื่อข้าวมันของเราก็พร้อม  ไก่ย่างของเราก็สุกดีแล้ว ถึงเวลาจัดใส่จานล่ะค่ะ
และแต่นนนน....น...นน..น แต่นนนน...น.น.น แต๊นนนนน.... สุดท้ายเมื่อรวมร่างกันเสร็จ  เราก็จะได้  "ข้าวมันไก่ย่างตะไคร้"  ออกมาหน้าตาประมาณนี้นะคะ .... ขอบอกว่าอร่อยใช้ได้เลยค่ะ ^__^
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-27.JPG
อาหารจานนี้เนี่ย ... ขอบอกว่าเด็กกินได้สบาย ผู้ใหญ่ก็กินดีนะคะ  (แต่กินมากไปไม่ดีน้อ มันไก่มีคอเลสฯ เยอะ) ... จะกินเป็นมื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อเย็น หรือมื้อที่อยากกินก็ได้ทั้งนั้นเลยค่ะ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-28.JPG
หากเพื่อนๆ  สนใจก็ลองไปทำดูกันนะคะ อ้อๆ ... ถ้าชอบรสจัดหรืออยากให้มีน้ำจิ้ม  (แบบว่าบางคนติดน้ำจิ้มเน๊าะ  กินอะไรก็อยากให้น้ำจิ้มอ่ะ) ...... ก็ให้ทำน้ำจิ้มแบบนี้ค่ะ  เอาน้ำมะนาว ผสมน้ำปลาดี ๆ ใส่น้ำตาลปี๊บหอม ๆ ลงไปสักหน่อย ชิมให้มี 3 รส (เปรี้ยวนำ เค็มตาม หวานนิดๆ)  แล้วก็ใส่พริกป่นกับผักชีซอยละเอียด ๆ ปริมาณตามความชอบ .....  คนให้เข้ากันดี ... ก็จะได้น้ำจิ้มแบบง่าย ๆ แต่กินคู่กับ "ข้าวมันไก่ย่างตะไคร้" ได้อร่อยมากๆ เลยค่ะ ... ลองทำดูนะคะ
http://pim.in.th/images/all-one-dish-food/kao-man-kai-takrai/kao-man-kai-takrai-29.JPG