Saturday, August 27, 2011

10 การฆ่าไร้ความหมาย

10) ฆ่ากวางเพื่อเขา/หัวไปสตัฟฟ์โชว์
ฆ่า แบบนี้ยังไม่แย่เท่าไหร่ เพราะบางครั้ง นักล่าก็ฆ่ากวางไปเพื่อเนื้อ, หนังและส่วนอื่นๆ (แบบว่าใช้ได้คุ้มค่า) แต่คนที่ล่ากวางเพื่อแค่เขานี่สิ มันไม่ค่อยจะไร้ค่าไปซักหน่อยหรอ กวางทั้งตัวต้องมาตายเพื่อเขาแค่เนี้ย ซึ่งเขาส่วนใหญ่นั้นจะถูกเอาไปใช้ประดับบ้านหรือเอาไปทำยาจีน การล่ากวางเพื่อเขานี้ได้ทำให้กวาง (และสัตว์ที่เขาอื่นๆ) โดนล่าจนลดจำนวนลงอย่างมากหรือสูญพันธุ์ (อย่างสมัน)


9) ฆ่านกนางแอ่นเพื่อรัง

เรา ก็คงจะเคยเห็นภาพหรือเรื่องราวเกี่ยวกับครอบครัวนกนางแอ่นที่ต้องตายทั้งโค รตเพราะความต้องการของมนุษย์มาแล้ว...รังนกนางแอ่นนั้นสร้างมาจาก...น้ำลายที่ นกนางแอ่นสำรอกออกมา...ซึ่งรังนกที่เขาว่ามีคุณภาพดีที่สุดนั้นคือรังนก (กองน้ำลาย) ครั้งแรกที่มีสีขาวบริสุทธิ์ ถึงจะได้ยินอย่างนี้แล้ว คนเราก็ไม่วายไปขโมยรังของมันมากินซะอีก (ถ้าอยากกินกองน้ำลายทำไมไม่ถุยกินเองเล่า) เมื่อคนขโมยรังนกนางแอ่นไป ครอบครัวนกนางแอ่นก็ไม่มีรังจะกกไข่และต้อง ถุย อีกรอบ พอนกนางแอ่นช่วยกันถุยน้ำลายสร้างรังเสร็จ คนก็ดันไปขโมยมาอีก ซึ่งมันก็เป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆจนแม่นกนางแอ่นไม่มีรังให้วางไข่และตายทั้ง กลมเหมือนนางนากโดยมีพ่อ (มาก) นกร้องไห้เสียใจอยู่ข้างๆ (รู้รึเปล่าว่านกนางแอ่นจับคู่อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต???) พอแม่นกตาย ตัวพ่อนกเองก็อาจจะอกแตกตายตามไป ต้องขอบคุณมนุษย์จริงๆที่สรรหาอะไรแปลก + ขยะแขยงอย่างรังนก (กองน้ำลาย) มากิน


8) ฆ่าหมีเพื่อเอาอุ้งตีน

ไม่รู้ว่าคนเราเป็นอะไรถึงชอบสรรหาของแปลก + ขยะแขยงมากินซะเหลือเกิน ซึ่งอุ้งตีนหมีก็เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อพูดถึง เท้า (ตีน) แล้ว เราก็คงรู้ว่ามันผ่านอะไรมาบ้าง ยกตัวอย่างเช่น คนเราที่ถึงแม้จะใส่รองเท้าก็อาจจะซุ่มซ่ามไปเหยียบอุนจิของสุนัขข้างบ้าน เข้าให้ แล้วเจ้าหมีเล่า รองเท้าก็ไม่ใส่ มันอาจจะไปเหยียบทั้งอุนจิ ฉิ๊งฉ่อง ซากศพ และของที่เราไม่อยากจะเอาเข้าปากอื่นๆ...เมื่อคนที่กินอุ้งตีนหมีได้ยิน อย่างนี้แล้ว ก็อาจจะเถียงว่า มันเป็นยาโด๊ปเพิ่มสมรรถภาพจากน้องชายมาตั้งแต่ยุคบรรพบุรุษแล้ว และเพราะความที่หมีเป็นสัตว์แข็งแรง การกินอุ้งตีนของมันก็อาจจะทำให้คนกินแข็งแรงเหมือนหมีก็ได้...ถ้าอยากเพิ่ม สมรรถภาพทางน้องชายก็ไปหาไวอากร้ามากินสิ เทคโนโลยีมีไว้ทำอะไร แล้วอีกอย่างการฆ่าหมีเพื่อเอาอุ้งตีนนี้ก็โหดไม่ใช่เล่น เพราะเขาจะขังหมีไว้ในกรงและจับถ่วงน้ำทั้งเป็น ซึ่งเจ้าหมีนั้นก็จะดิ้นพรวดพราดจนสำลักน้ำตาย (คนที่มีประสบการณ์จมน้ำหรือสำลักน้ำก็คงจะรู้ว่ามันแย่แค่ไหน)


7) ฆ่าสัตว์เพื่อเอาขน

ก็ รู้อยู่หรอกนะว่าลวดลายของขนสัตว์นั้นมันสวยจริงๆ แต่สมัยนี้ เขาก็มีขนสัตว์สังเคราะห์หรืออิ่นๆที่ดูเหมือนจนสัตว์จริงๆและไม่แพงด้วย การทำเสื้อขนสัตว์แค่ 1ตัว นั้นต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดแทขาดใจของสัตว์เป็นล้านๆ ซึ่งคนหลายคนก็คงเคยเห็นแล้วที่คนจีนเขาจับสัตว์ที่น่ารักมาทุ่มหัวลงกับ พื้นจนมันดิ้นไม่ออกแล้วก็ถลกกันตรงนั้นแหละ ลองนึกดูสิว่าจะเจ็บแค่ไหน เพราะแค่เราโดนมีดบาดทีหนึ่งก็ร้องจะเป็นจะตายแล้ว แล้วเจ้าสัตว์น่าสงสารนั้นต้องนอนปวดแสบปวดร้อนจนตายซึ่งก็อาจจะใช้เวลานาน พอสมควรเพราะสัตว์อึดกว่าคน เพราะฉะนั้นครั้งต่อไปที่คุณกำลังตัดสินใจซื้อเสื้อขนสัตว์ก็ลองนึกถึงความ ทรมานของสัตว์น่ารักเหล่านี้ซักหน่อยเถอะ (ถึงแม้ว่าป้ายจะเขียนว่ามาจากฝรั่งเศส อิตาลี หรืออะไรก็เถอะ มันอาจจะมาจากจีนก็ได้เพราะราคาถูก แล้วอีกอย่าง คนทำเขาก็หลอกคุณได้ตราบใดที่ยังไม่โดนจับ)



6) ฆ่าแรดเอานอ

แรด นี้ก็เป็นสัตว์อีกชนิดที่ต้องมาสังเวยความเชื่อ (ขอใช้คำหยาบหน่อย) บ้าๆของคนบางคนที่เชื่อว่านอแรดนั้นเป็นยาชูกำลัง ซึ่งทำให้แรดหลายสปีชีส์ลดจำนวนลงจนเกือบสูญพันธุ์ (แรดดำลดลงจาก 70,000ตัวในกลางศตวรรษที่ 20 หรือแค่ 2,410ตัวในปี 2547…แรดชวาที่เป็นสัตว์คุ้มครองของไทยนั้นมีจำนวนน้อยกว่า 100ตัวในปัจจุบัน…แรดขาวโชคดีหน่อยที่ไม่ใกล่สูญพันธุ์...วิกิพีเดีย)


5) ฆ่าช้างเอางา

การฆ่านี้ก็เป็นการฆ่าไร้ความหมายอีกอย่าง ซึ่งช้างทั้งตัวต้องมาตายเพราะงาแค่คู่เดียว (ช้างแอฟริกานั้นลดลงจากจำนวนมากกว่า 1.3ล้านในปี 2533 เหลือแค่ 10,000ในปี 2550...ส่วนช้างเอเชียนั้นลดลงจนเหลือแค่ 41,410 - 52,345ตัวในปี 2546...วิ กิพีเดีย) การค้างาช้างนั้นผิดกฏหมายในประเทศไทย แต่คนเห็นแก่ตัวบางคนก็ยังคงค้างาอยู่โดยใช้ช่องโหว่ทางกฏหมาย ซึ่งทำให้ประเทศไทยเป็นแหล่งซื้อ-ขายงาช้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ส่วนคนไทยนั้นก็ไม่ค่อยสนใจจะอนุรักษ์เพราะไปห่วงแพนด้ากันหมด)


4) ฆ่าม้าเพราะ ไม่สามารถวิ่งได้แล้ว

คุณลองนึกภาพการเป็นม้าดูสิ ตั้งแต่เกิดมาได้ไม่นานก็ต้องจากหม่ามี๊ไป และเมื่ออายุได้ประมาณ 3ปีก็ต้องกลายเป็นม้าให้คนเขาขี่หรือเอาไปแข่งในสนามหรือกีฬาโรดิโอ สำหรับพวกม้าขร่เล่นๆในฟาร์มนั้นอาจจะมีชะตากรรมที่ดี แต่พวกม้าแข่งนี่สิ ต้องวิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆจนบางครั้งก็อาจจะตายได้ ส่วนพวกม้าโรดิโอนี่ก็แย่ไม่แพ้กันเพราะบางครั้งพวกมันก็ได้รับบาด เจ็บ...และ...โดนเอาไปฆ่า ซึ่งการเอาไปฆ่านี้ก็เป็นชะตากรรมของม้าแข่งที่แพ้เหมือนกันเพราะมันก็จะโดน ส่งเข้าโรงฆ่าสัตว์เพื่อบดเนื้อทำอาหารสัตว์ ส่วนม้าแข่งที่ชนะไปได้เรื่อยๆจนเกษีรยณนั้นก็จะกลายเป็นพ่อพันธุ์-แม่ พันธุ์แล้วแต่เพศ ซึ่งพ่อ-แม่พันธุ์เหล่านี้ก็จะถูกจับทำพันธุ์จนเบื่อไปเลยล่ะ (ถ้าอยากดูวีดีโอก็ลองเปิดยูทูปพิมพ์คำว่า “horse abuse” ดู)


3) ฆ่าฉลามเพื่อเอาครีบ
นี่ ก็เป็นสัตว์ที่ต้องมาสังเวยชีวิตเพราะความเชื่อที่ไม่จริงอีกแล้ว ซึ่งคนเขาเชื่อกันว่าฉลามนั้นเป็นสัตว์ที่ไม่เป็นมะเร็ง (แต่การศึกษาในปัจจุบันนั้นค้นพบว่าฉลามก็เป็นเนื้องอกได้เหมือนกัน) และครีบของมันนั้นก็จะทำให้คนกินไม่เป็นมะเร็งและอายุยืนยาวอีกด้วย (หูฉลามมีรูปร่างคล้ายก๋วยเตี๋ยวซึ่งคนจีนเขาเชื่อว่ายิ่งกิยยาวเท่าไหร่ ยิ่งอายุยาวเท่านั้น) แต่การจะได้ครีบ (หู) ฉลามมานั้นมันก็ต้องฆ่าฉลาม ซึ่งเขาจะลากเอาฉลามขึ้นเรือ ตักครีบทั้งหมดทั้งเป็น และปล่อยกลับทะเล ซึ่งเมื่อฉลามไม่มีครีบแล้วมันก็ไม่สามารถว่ายน้ำได้และต้องจมน้ำตายในทะเล อันมืดมิดนั่นแหละ (ถ้าอยากดูวีดีโอก็ลองเปิดยูทูปพิมพ์คำว่า “shark fin cruelty” ดู)


2) ฆ่าสัตว์เพื่อความสนุก

อย่าง เช่นการสู้กระทิงที่มาธาดอร์จะออกมายืนหลอกล่อเป้ากระทิงและเอาหอกจิ้มมัน เรื่อยๆจนเลือดอาบ แล้วจึงปลิดชีวิตด้วยดาบ ถ้าคุณเป็นเจ้ากระทิงนั้นก็คงจะไม่สนุกหรอกจริงมั๊ย เกิดมาเป็นกระทิงที่สัตว์ทุกชนิดจ้องจะกินก็แย่พอแล้ว แต่ยังต้องมาวิ่งไล่ตามคนที่ขวิดเท่าไหร่ก็ไม่โดนซะที (กระทิงไล่ตามความเคลื่อนไหวของผ้า) แล้วก็โดนหอกแหลมๆจิ้มเอาๆจนปางตาย ซึ่งความอึดที่ธรรมชาติสร้างขึ้นก็ได้มาทำพิษตอนนี้แหละ (ถ้าอยากดูวีดีโอก็ลองเปิดยูทูปพิมพ์คำว่า “bull fighting cruelty” ดู)


1) ฆ่าสัตว์เพราะความมักง่าย          
           

อย่าง เช่นทิ้งขยะไม่เป็นที่ ทิ้งขยะลงทะเล ตอนที่คุณทิ้งน่ะ คุณก็คงคิดอย่างง่ายๆว่า ทิ้งตรงนี้ไม่เป็นไรหรอก ถังขยะมันไกล แต่คุณรู้รึเปล่าว่าสัตว์ตั้งเท่าไหร่ต้องมาสังเวยให้กับความมักง่ายของคน เคยได้ยินที่คุณครูบอกรึเปล่าว่าอย่าปล่อยลูกโป่งลอยฟ้าไปเพราะมันจะลอยไปลง ทะเลและเต่าจะกลืนเข้าไปและตายเพราะลูกโป่งไม่ย่อย???

เมื่อ อท่านจบแล้ว คุณก็อาจจะไม่อยากเกิดมาเป็นคนก็ได้ แต่ก็นะ ไม่มีใครเลือกเกิดได้ แต่เรามีทางเลือกที่จะช่วยสัตว์เหล่านี้โดยการไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่มักง่ายเท่านั้นเอง

No comments:

Post a Comment