Wednesday, January 11, 2012

สารพัดวิธี To Be a Younger Face


To Be a Younger Face

ในบรรดาผิวหนังด้วยกัน ผิวหน้าถือเป็นสิ่งที่ผู้หญิงเราหวงแหนที่สุด และยังบอบบางกว่าผิวหนังบริเวณอื่นด้วย แม้เราจะอยากหยุดเวลาไว้เพียงใด แต่ใบหน้าก็คอยแต่จะโรยราไปตามวัยที่ล่วงเลย จากที่เคยสดใสเปล่งปลั่ง ก็กลับหมองคล้ำ เหี่ยวย่น ขาดความชุ่มชื้น และเต็มไปด้วยริ้วรอย ดังนั้นการเริ่มต้นดูแลผิวหน้าตั้งแต่วันนี้จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ

สารพัดวิธี To Be a Younger Face

สาวๆหลายคนคงอยากหน้าใส แต่หนักใจที่จะต้องทุ่มเทเงินทองซื้อเครื่องประทินผิวราคาเรือนพัน เรือนหมื่น อย่าเพิ่งท้อใจไป วันนี้เรามีหลากหลายวิธีที่ช่วยให้ผิวหน้าดูดีขึ้นได้โดยที่คุณไม่ต้องจ่ายแพงมากขนาดนั้น และยังเป็นวิธีธรรมชาติช่วยหลีกเลี่ยงการเผชิญสารเคมี ที่สำคัญคุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองค่ะ

Facial Acupressure
ศาสตร์อายุรเวทของอินเดียเชื่อว่าการกดจุดบนใบหน้ามีส่วนช่วยเสริมสร้างความงามบนใบหน้าได้ เพราะการกดจุดเป็นการไปกระตุ้นการทำงานของอวัยวะต่างๆที่เชื่อมโยงกับจุดนั้น ๆ ให้ดีขึ้น รวมทั้งยังช่วยล้างพิษที่สะสมออกไปอีกด้วย หากทำเป็นประจำหลังตื่นนอนตอนเช้า เชื่อกันว่าจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดช่วยให้ผิวหน้าสดใส ไม่หมองคล้ำ สำหรับจุดต่าง ๆ มีดังนี้

จุดที่ 1 บริเวณขมับติดกับกระบอกตาทั้งสองข้าง ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณรอบดวงตา ทำให้นัยน์ตาสดใส วิธีกดใช้นิ้วกดในลักษณะนวดวนเป็นวงกลมเข้าไปพร้อมออกแรงกด จากนั้นวนออกพร้อมผ่อนแรงกด

จุดที่ 2 บริเวณกลางหน้าผาก ช่วยให้อารมณ์สงบและมีสมาธิมากขึ้น วิธีกดใช้นิ้วกดลึกเข้าไป(ไม่ต้องวนนิ้ว) แล้วผ่อนแรงกด

จุดที่ 3 บริเวณใต้หัวคิ้ว ช่วยบรรเทาอาการไซนัสได้ โดยจะใช้นิ้วโป้งซ้อนใต้หัวคิ้วแล้วกดนิ้วขึ้นไป แล้วผ่อนแรงกดจุดที่ 4 บริเวณกระดูกแก้มใต้ดวงตา จุดนี้เชื่อมกับกระเพาะอาหาร ช่วยเพิ่มพลังบริเวณช่องท้องได้ วิธีกดเหมือนจุดที่ 2

จุดที่ 5 บริเวณคาง ช่วยบรรเทาอาการท้องผูกหรือขับถ่ายไม่เป็นปรกติได้ โดยใช้วิธีบีบให้ทั่วบริเวณคาง

จุดที่ 6 บริเวณใต้คางไปจนถึงกราม วิธีกดใช้ท้องนิ้วของนิ้วโป้งรูดบริเวณใต้คางขึ้นไปจนถึงกราม จะช่วยลดอาการปวดหัวหรือไมเกรนได้

จุดที่ 7 บริเวณหลังติ่งหู วิธีกดเหมือนจุดที่ 2 ช่วยให้ระบบการทำงานของลำไส้เล็กดีขึ้น

จุดที่ 8 บริเวณใบหู บีบใบหูให้พับติดกัน ช่วยเรื่องการทรงตัวให้เป็นปรกติ


ข้อควรระวัง เวลานวดหรือกดที่ผิวหน้านั้น อย่าขยี้หรือกดแรงเกินไป เพราะจะทำให้ผิวช้ำและเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้

อีกวิธีที่ช่วยเพิ่มพลังและความสดชื่น คือการใช้บริเวณท้องนิ้วมือทั้งสี่ถูเร็ว ๆ แบบเบา ๆ ที่ใบหู จนรู้สึกอุ่น และใช้นิ้วมือทั้งสิบนวดที่หนังศีรษะจนทั่ว เพียงเท่านี้คุณก็จะรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และยังช่วยให้ผิวหน้ามีสุขภาพดีขึ้นด้วย

Facial Massage

การนวดหน้า ช่วยผ่อนกล้ามเนื้อใบหน้าที่ตึงเครียดให้คลายลง และยังกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณใต้ชั้นผิวหน้าให้ดีขึ้น ซึ่งทำให้ผิวหน้าเปล่งปลั่งสดใส หากนวดเป็นประจำสามารถลดและป้องกันริ้วรอยที่ก่อตัวบนใบหน้าได้ วิธีนวดหน้าอย่างง่าย ๆ มีดังนี้

ขั้นที่ 1 ล้างหน้าและมือให้สะอาด เช็ดให้แห้ง จากนั้นถูผ่ามือทั้งสองข้างด้วยกันแบบเร็ว ๆ แล้วนำมาปิดที่ใบหน้า คุณจะรู้สึกอุ่นที่ผิวเป็นการวอร์มผิวก่อนนวด

ขั้นที่ 2 หยดครีมบำรุงหรือน้ำมันสำหรับนวดหน้า(คนละชนิดกับน้ำมันนวดตัว)ลงบนผิว เกลี่ยให้ทั่วใบหน้าโดยใช้ท้องนิ้วของนิ้วกลางและนิ้วนาง ซึ่งเป็นนิ้วที่ไม่มีแรงกดมากจึงไม่ทำให้ผิวหนังเกิดริ้วรอยได้ง่าย

ขั้นที่ 3 นวดวนเป็นวงกลม ลงน้ำหนักนิ้วปานกลาง วิธีการวนนิ้ว มือซ้ายให้วนซ้าย มือขวาให้วนขวาไปเรื่อย ๆ พร้อมกันทั้ง 2 มือ เริ่มจากหน้าผากไปจนถึงขมับ จากปลายคางจนถึงติ่งหู และจากร่องจมูกจนถึงใบหู

ขั้นที่ 4 ใช้ปลายนิ้วกดเบา ๆ บริเวณแนวคิ้ว จากหัวคิ้วไปไล่ไปเรื่อย ๆ จนถึงหางคิ้ว และจากปีกจมูกเฉียงไปจนถึงมุมปาก



Facial Exercise

วิธีที่ 1 พูดคำว่า A, E, I, O, U ติดกันโดยทำปากให้โอเวอร์แอคชั่นมากที่สุด 10 ครั้ง
วิธีที่ 2 อ้าปากกว้างพร้อมทำตาโต นับ 1 - 3 ในใจ แล้วผ่อนกล้ามเนื้อใบหน้าให้กลับสู่ภาวะปรกติ 10 ครั้ง
วิธีที่ 3 ทำปากเหมือนกับอมน้ำไว้ในปากให้มากที่สุด แล้วเลิกคิ้วสูงไปพร้อมกัน นับ 1 - 3 ในใจ แล้วผ่อนกล้ามเนื้อใบหน้าให้กลับสู่ภาวะปรกติ 10 ครั้ง
การบริหารใบหน้าอย่างสม่ำเสมอนี้ จะช่วยให้กล้ามเนื้อและผิวหนังกระชับมากขึ้น ป้องกันรอยเหี่ยวย่น และลดความหย่อนยานของผิวหนังได้ 


Recipes for Facial
ผิวพรรณที่เปล่งปลั่งย่อมเกิดมาจากภายใน การรับประทานอาหารที่บำรุงผิวพรรณเป็นพิเศษจึงมีส่วนสำคัญไม่น้อยทีเดียว อาหารที่มีวิตามิน A, C, E ธาตุเหล็ก กำมะถัน และสังกะสี โดยเฉพาะผักและผลไม้สดจะมีสารต้านอนุมูลอิสระหรือสาร Anti - Oxidant อยู่หลายชนิดสารนี้มีคุณสมบัติช่วยชะลอความเสื่อมสภาพของเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายได้
นอกจากนี้แล้วยังควรดื่มสะอาดอย่างเพียงพอประมาณ 6 - 8 แก้ว ในแต่ละวัน เพื่อชดเชยน้ำหล่อเลี้ยงผิวที่ระเหยออกไปอยู่ตลอดเวลา 
สุดท้ายที่จะลืมไม่ได้นั่นคือการพักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกหนีจากความเครียดให้ได้มากที่สุด เพียงเท่านี้หน้าใสสุขภาพดีและอ่อนเยาว์ก็จะเป็นของคุณ

No comments:

Post a Comment