Wednesday, October 26, 2011

5 อาหารสุดฮิตที่เคยถูกมองว่าน่าขยะแขยง

อันดับ 5 กุ้งลอบสเตอร์หรือกุ้งมังกร (Lobster)



http://homecooking.about.com/od/foodhistor...sterhistory.htm
--- เป็นเรื่องยาก จะให้เชื่อว่ากุ้งมังกรสีสันแดงสดใสรสชาติอร่อยหวานฉ่ำลิ้นนั้นครั้งหนึ่ง เคยมีคนดูถูกว่าเป็นอาหารชั้นต่ำ กับอาหารทะเลแสนหรูหรา ราคาแพงนี้ ครั้งหนึ่งในทวีปอเมริกาเหนืออุดมไปด้วยกุ้งชนิดนี้มากมายหลายพันธุ์ตัวแบบ ว่าหว่านแหเมื่อไหร่เจอแต่กุ้งชนิดอยู่อยู่แต่เอี๊ยด
--- ...อนิจจา.....พวกเขาเห็นพวกมันเป็นเพียงส่วนเกินที่ไม่มีค่า เพราะสมัยนั้นไก่เป็นอาหารชั้นสูงมากกว่าอาหารทะเล
อีกทั้งคนหลายคนเรียกมันว่า “แมลงทะเล” เชื่อว่ามันจัดอยู่ในสัตว์จำพวกแมงมุมยักษ์
(กุ้งจัดในไฟลัมสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ชั้น Crustacea อันดับ Decapoda)
ดังนั้นคนจึงเกลียดชังในการเอากุ้งชนิดนี้มาทำอาหารจึงทำเป็นปุ๋ยแทน....(โอ..เสียดายแย่)
เมนูของคนจนสมัยก่อนจะเต็มไปด้วยกุ้งมังกรทั้งนั้น การดูหมิ่นกุ้งมังกรนี้มานานกว่าศตวรรษ กว่าจะทำให้หลายคนยอมรับได้
--- ตอนนี้กุ้งลอบสเตอร์กลายเป็นของหายากสุดๆ และกลายเป็นของมีราคาแพงมาก บางตัวราคาพัน-หมื่นกว่าบาท(ตามกิโล) และตอนนี้ไก่กลับเป็นอาหารที่หาซื้อได้ตามตลาดข้างบ้านทั่วไป




อันดับ 4 หอยนางรม (Oysters)



http://www.independent.co.uk/life-style/fo...ers-578588.html
--- หอยนางรม (วงศ์ Ostreidae)เป็นลูกพี่ลูกน้องกับหอยโข่ง(หอยทาก)
หอยนางรมเป็นอาหารทะเลที่นิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลาย เป็นอาหารที่จัดได้ว่ามีคุณค่าทางโภชนาการสูง และมีรสชาติอร่อยมาก
--- แต่เชื่อหรือไม่ครั้งหนึ่งมันเคยถูกดูแคลนเช่นกันว่าเป็นอาหารชั้นต่ำเนื่องจากหลายๆ คนคิดว่าการกินหอยนางรมเปรียบเสมือนกินหินที่ข้างในเป็นทารก(คิดดูสิคะ)
บางคนก็นึกถึงเวลาดูดมันแล้วเหมือนดูด.....ช่องคลอดหญิง(รูปร่างจ้ะ )
นอกจากนี้ก็ยังเป็นชื่อของเครื่องทรมานชนิดหนึ่งของยุโรปอีกด้วย
--- ปัจจุบัน ตลาดหอยนางรมของโลกนั้น มีแนวโน้มขยายตัวได้อีกมากเพราะผลผลิตในปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อการบริโภค ภายในประเทศ ทำให้หอยนางรมมีราคาสูงมากเมื่อเทียบกับหอยชนิดอื่นๆ ที่ฝรั่งเศสเอามาวางจานราคาหลายยูโรเลยแหละ
ปล.แทบลืมไปแล้วว่าครั้งหนึ่งเคยด่ามันว่าเหมือน...อวัยวะเพศหญิง (ช็อคค่ะ)




อันดับ 3 ฟัวกราส์หรือตับห่าน (Foie gras)



http://writer.dek-d.com/dek-d/story/viewlo...&chapter=34
--- ฟัวกราส์ได้ชื่อว่าเป็นอาหารฝรั่งเศสที่ดีที่สุด เช่นเดียวกับเห็ดทรัฟเฟิล
มีลักษณะนุ่มมันและมีรสชาติที่แตกต่างจากตับของเป็ดหรือห่านธรรมดา
และเป็นหนึ่งในอาหารฝรั่งเศสที่ทั่วโลกรู้จักมากที่สุดนอกเหนือจาก ไข่ปลาคาเวียร์(caviar)...
--- แต่ใครจะรู้ว่ากว่าที่ฟัวกราส์จะเป็นอาหารหรูอันสุดยอดของฝรั่งเศสนั้น ต้องผ่านมาอะไรบ้าง ต้นกำเนิดฟัวกราส์แท้ๆ ไม่ใช้ฝรั่งเศส เพราะจากประวัติศาสตร์โลกพบว่าต้นกำเนิดคือประเทศอียิปต์โบราณ 2500BC ต่อมาเมื่อกษัตริย์เมืองสปาตาชื่อ Agesilaus ได้ไปเยี่ยมประเทศอียิปต์ใน และเขาก็สนใจการขุนอาหารแบบนี้เลยเผยแพร่เข้าไปยุโรปในกาลต่อมา
--- แต่อนิจจา...ช่วงแรกฟัวกราส์ไม่ได้รับนิยมมากนัก เนื่องจากชาวไร่ชาวนายุคกลางฝรั่งเศสส่วนใหญ่เลี้ยงหมูมากกว่าสัตว์ปีก ทำให้สูตรอาหารนี้ตกอยู่ในมือของชาวยิว!! ซึ่งสมัยก่อนพวกยุโรปมักดูถูกชาวยิวอยู่แล้ว พวกเขาต่อต้านวัฒนธรรมของชาวยิวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษา ศาสนา และทำให้มองอาหารชาวยิวต่ำไปด้วย ซึ่งกว่าฟัวกราส์จะได้รับความนิยมนั้นต้องทนเสียงบ่นด่าขนาดไหน(ตอนนี้ก็โดน ด่าอีก)
--- ปัจจุบัน ฟัวกราส์สูตรต้นตำรับแท้ หาได้ยากและมีราคาแพง ในเมืองไทยก็มีแต่จขกท.คิดว่า เค้าคงจะไม่ได้ทำแบบต้นตำรับหรอก (จขกท.นี่ชอบฟัวกราส์ค่ะ)



อันดับ 2 โปเลนต้า (Polenta)



http://en.wikipedia.org/wiki/Polenta
--- โปเลนต้าเป็นข้าวโพดบด ใช้ทำอะไรหลายๆ อย่าง เช่นซูป ขนม อะไรก็ได้ อาหารของกลุ่มคน ที่นิยมวัยทำงานและเล่นกีฬา ครั้งหนึ่งมันเคยได้รับสมญานามว่าเป็นอาหารที่เลวร้ายที่สุดของโลก....ถึง ขั้นดูถูกว่ากินแล้ว เป็นโรค กระดูกอ่อน ให้แคลลอรีน้อย ใครกินกลายเป็นโรคจิตเสื่อม
--- "polenta-eater(แปลว่าโปเลนต้ากินคนมั้ง)" ในขณะที่ทางภาคเหนือของอิตาลีบอกว่ามันเป็นอาหารน่าเบื่อและไม่มีรสชาติและ รูปร่างน่าเกลียดขรุขะ เสมือนอะไรสักอย่างที่สีเหลืองๆ ที่ออกจากร่างกายวางบนข้าว...(นึกไม่ออกแล้ว ไม่เคยเห็นอาหารชนิดนี้ เขียนไม่ออก )
--- ปัจจุบัน ตอนนี้มันเป็นอาหารขึ้นชื่อของอิตาลี มีขายตามร้านทั่วไป ราคาขั้นต่ำราคา $25
ปล. จขกท.ไม่ค่อยรู้จักโปเลนต้านี่หรอกนะ

ไปดูอันดับหนึ่งดีกว่า รับรอง ช็อค แน่ จขกท.ก็ยังไม่เชื่อตาตัวเองค่ะ

.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
(เยอะไปละ)
.
.
.
.
.
.
.
.


อันดับ 1 ซูชิ(sushi)!!!!!!



http://www.winbookclub.com/viewanswer.php?qid=16719
--- และก็มาถึงอันดับ 1 ของเรากับอาหารสุดฮิต เพียงแค่คุณวางอะไรก็ตามที่บนข้าวหมักน้ำส้มสายชูมันก็กลายเป็นอาหาร แสนอร่อยนาม “ซูชิ”
--- ทำไมซูชิติดอันดับ 1 ซึ่งทั้ง 4 อันดับที่กล่าวมาพอมีเหตุผลแต่เจ้าซูซิอาหารที่นิยมและประจำชาติของญี่ปุ่น ทำไมครั้งหนึ่งเคยดูถูกว่าเป็นอาหารเกรด B ไปดูประวัติกันค่ะ
--- ก่อนอื่นลองไปหาประวัติซูชิดู พบว่า ซูซินั้นไม่ใช้อาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่น
ซึ่ง ญี่ปุ่นรับเอาวัฒนธรรมการรับประทานอาหารประเภทปลาหมักกับข้าวมาจากประเทศ แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยและลาว การหมักปลา(ปลาร้ามั้ง)มักทำกันแพร่หลายโดยเกษตรกรที่อาศัยอยู่ริมฝั่งโขง
ต่อ มาก็แพร่ในจีนและญี่ปุ่น ในปี 1336-1573 ญี่ปุ่นค้นคิดวิธีการผลิตน้ำส้มสายชูจากการหมักข้าวได้ จึงนำน้ำส้มสายชูมาผสมลงในข้าวที่หุงเสร็จแล้ว เพื่อทำให้ข้าวอยู่ได้นานขึ้นและเพิ่มรสชาติข้าวอีกด้วย พอลองนำมารับประทานกับปลาดิบ กับวาซาบิก็พบว่ามันอร่อยขึ้น(แน่นอน)...จนเป็นซูซิตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
--- ที่ดูถูกไม่ใช่ปุ่น แต่เป็นอเมริกาต่างหาก(ได้ไงงง)ซูชิเข้าประเทศอเมริกามาใหม่ๆ ฝรั่งมองว่ามันไม่ใช้อาหาร(ได้ไง สิ่งที่ยัดเข้าปากไม่เรียกว่าอาหารเรอะ) ไม่ยอมรับว่าข้าวดองนี้คืออาหาร และเป็นเรื่องยากที่ทำให้เขายอมรับอาหารดิบๆ นอกจากนี้พวกชาวตะวันตกคิดว่าข้าวคือธัญพืชไม่ใช้อาหารหลัก ซึ่งกว่าเปิดตลาดซูชิในอเมริกา ก็ต้องรอถึงปี 1980
--- ปัจจุบัน ซูชิกลายเป็นเมนูที่ได้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก
อาจกล่าวได้ว่าเป็นอาหารฟาสต์ฟู้ดของญี่ปุ่นที่ให้คุณค่าทางอาหารมากกว่าฟาสต์ฟู้ดของอเมริกา
จนเกิดเมนูที่เรียกว่า “แคลิฟอร์เนียโรว" ไงละ

No comments:

Post a Comment