Wednesday, July 13, 2011

เทคนิคสร้างสมาธิในการเรียน

เทคนิคสร้างสมาธิในการเรียน
บอกลาอาการง่วง ซึมเซา วอกแวก ฟุ้งซ่าน ด้วยวิธีเสริมสร้าง “สมาธิ” อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยหลักปฏิบัติง่าย ๆ 5 ข้อ
วัยเรียนหลายคนที่มักเผชิญปัญหาสมาธิสั้น หรือบ่อยครั้งจดจ่อกับกิจกรรมเป็นบางเรื่อง แต่ก็เพียงระยะเวลาไม่นานนัก นั่นเป็นเพราะน้อง ๆ อาจละเลยความสมดุลของตารางกิจวัตรประจำวันไป จนส่งผลต่อประสิทธิภาพการเรียนรู้ และจดจำ อย่างไรก็ตาม ภาวะดังกล่าวปรับแก้ได้ด้วย 5 วิธีสร้างสมาธิง่าย ๆ ดังนี้
 เริ่มจาก หลับเพื่อสมอง ในอัตราที่เพียงพอ 6-7 ชั่วโมง ระบบประสาทจะถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมสำหรับการเรียนในวันถัดไป บอกลาอาการง่วง ซึมเซาได้เลย หากนอนให้เป็นระบบทุกวัน ร่างกายจะคุ้นชิน และส่งผลดีต่อสมองในระยะยาวด้วย
 เลี่ยงคาเฟอีนเข้มข้น แม้ผลวิจัยในต่างประเทศจะพบว่า คาเฟอีนจัดเป็นสารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ลดความง่วง เหนื่อยล้า กระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มความกระปรี้กระเปร่า ทำให้กลไกการคิดรวดเร็ว และมีสมาธิมากขึ้น แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับในปริมาณไม่มากเกินไป สำหรับวัยเรียนลองลดความเข้มข้นจากกาแฟเป็นชาจะเหมาะต่อสุขภาพมากกว่า
 ขยับกายยืดเส้นยืดสาย ในระหว่างรอเรียน หรือเปลี่ยนคาบเรียน อาจลุกเดินรอบ ๆ ห้อง ก้ม เงย หยุดพักสายตาที่สนามสีเขียว หรือจิบน้ำเปล่าบ้าง ช่วยเติมความสดชื่น คลายเครียด คลายกล้ามเนื้อ และเป็นการเรียกสมาธิให้กลับคืนมา
 สร้างสมาธิด้วยโยคะ รวมถึงการออกกำลังกายลักษณะอื่น อาทิ วิ่งเหยาะ ๆ ว่ายน้ำ ฯลฯ เมื่อร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน จะรู้สึกกระชุ่มกระชวย นอกจากช่วยคลายเครียดแล้ว ยิ่งปฏิบัติสม่ำเสมอจะทำให้จิตใจสงบ ไม่วอกแวก หรือฟุ้งซ่าน มีผลต่อการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้นานขึ้นด้วย
 กำหนด หรือควบคุมเวลา โดยเฉพาะเมื่อต้องสะสางงาน รายงาน การบ้าน อ่านหนังสือ รวมถึงกระทำสิ่งต่าง ๆ โดยตั้งเป้าช่วงเวลาเสร็จสิ้นให้ชัดเจน เป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับกระตุ้นสมองให้เร่งตอบสนอง จดจ่อ มุ่งมั่นอยู่กับความรับผิดชอบนั้น ๆ
นับเป็นพื้นฐานเบื้องต้นในการปรับสมดุล และความแปรปรวนของร่างกาย สู่การเสริมสร้างสมาธิอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยวิธีง่าย ๆ ข้างต้น ลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ.

ใส่สีชมพูยังไง ไม่ให้หวานเลี่ยน

ใส่สีชมพูยังไง ไม่ให้หวานเลี่ยน
สีชมพูนี่สาวหวาน หรือสาวเปรี้ยวล่ะ ?
   
สำหรับสาวๆ ที่ชอบสีชมพู แต่ไม่อยากได้ลุคส์สาวหวาน เพราะใครๆ ก็มักจะบอกว่าสาวที่ชอบสีชมพู เป็นสาวอ่อนหวานน่าทะนุถนอม แต่ไม่ใช่เลยค่ะ สีชมพูไม่จำเป็นต้องมาพร้อมความหวานเสมอไป โดยเฉพาะการแต่งตัว เราสามารถระบายออกทางอารมณ์ด้วยการแต่งตัว ถ้าอยากแต่งตัวให้หวานแบบไม่เลี่ยน เราอาจจะเสริมความเปรี้ยวเท่ห์เข้าไปในการแต่งด้วยก็ได้ ด้วยเทคนิคง่ายๆ ดังต่อไปนี้
 - เริ่มจากการเลือกเนื้อผ้าให้เข้ากับโอกาสในการใส่ อย่างเช่น ผ้าซาตินสีชมพูก็ควรใส่สำหรับไปงานราตรี แต่ถ้าอยากแต่งตัวดูย้อนยุคนิดๆ ควรเลือกผ้าเนื้อหนาขึ้นมาเล็กน้อย เช่น ผ้าคอตตอนหรือผ้าเสิร์ตค่ะ
 - สาวผมสีอ่อนควรเลือกใส่สีชมพูนีออน หรือสีเฉดนุ่มนวลเล็กน้อย แต่สำหรับสาวผิวสีเข้มควรใส่สีชมพูอมแดงเพื่อทำให้ผิวดูสว่างขึ้นนะค่ะ
 - อย่าใส่สีชมพูทั้งท่อนบนและท่อนล่าง ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ถ้าใส่เสื้อสีชมพูก็ใส่กระโปรงสีอื่น หรือถ้าเลือกใส่รองเท้าสีชมพู ก็ไม่ควรสะพายกระเป๋าสีชมพูด้วยเป็นอันขาด ไม่งั้นอาจจะกลายเป็นแม่สาวบาร์บี้สุดแสนหวานเลี่ยนได้เลยนะคะ
 - ถ้าความอ่อนหวานของสีชมพูทำให้คุณดูเหมือนเด็กหญิงตัวน้อยๆ ละก็ ลองเพิ่มความแข็งแกร่งให้ชุดด้วยเสื้อแจ็กเก็ตตอกหมุดหรือรองเท้าบู้ทแนว ทหาร ได้ลุคที่ดูเก๋เท่ห์ไปอีกแบบ
-- Pink Pink --
ฉันไม่ใช่ สาว หวาน .. หุ หุ
มาดูกันค่ะว่า สีชมพูแล้วต้องเป็นสาวหวานมั้ย

ปากสีหวานก็จริง แต่มันเปรี้ยวอีตรง เม็ดแตงโมฮ่ะ 


บิกินี่ชมพู ดำ แบบนี้ ไม่หวานค่ะ ..เป็นสาวฮอตเลยแหละ (ถ้ากล้าใส่ ฮาฮา) 
สีชมพู บิกินี่

เดรสออกงานชุดนี้ ชมพู แปร๊ด แปร๊ด (หวานป่ะ? ไม่หวานใช่ม๊า) 
 

ผมสีชมพูขนาดนี้ ..หวานเร้ออ ..นี่มันสาวพังค์ชัดๆ ฮ่า 

สาวชุดชมพูนางนี้ เธอผิดกฎทุกประการ แบบนี้ เรียก สาวเปรี้ยว ไปเลยจ้า
นางมั่นมาก ให้ 5 ดาว 

รองเท้าชมพู หวานมั้ย (ไม่ได้เลีย ฮี่ฮี่)


นางๆ จาก วิคตอเรีย ซีเคร็ท นางเหล่านี้ คือเซ็กซี่ตัวท๊อปคร่า


..แน่นอน พวกเธอไม่ใช่สาวหวาน เธอเปรี้ยวจี๊ด



 




ทำไมดูกระทู้นี้จบ ..แล้วรู้สึกเลี่ยนๆ
แสดงว่า คอนเท้นท์ที่บอกมาข้างบน ใช้ไม่ได้จริง อั๊ยยะ.. 
 ป.ล. ดาวที่ให้น่ะ มั่วค่ะ ไม่ได้เป็นแฟชั่นกูรู ให้ไปมั่วๆ อย่าได้มาเชื่อถือกันเชียว 55 
kate-berryz
--
แบบหว๊าน หวาน