Thursday, October 25, 2012

สวยมีสไตล์ ภายใต้ เสื้อเชิ้ต



ลองเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วกวาดสายตาสำรวจดูซิว่า คุณมีเสื้อเชิ้ต ตัวเก่งแขวนอยู่บ้างหรือยัง ?! ถ้ายังละก็...อย่ารอช้า รีบหาเสื้อเชิ้ตดีไซน์เก๋ๆ ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายชิ้น must have ไว้ติดตู้สักตัวกันเถอะ... 
แม้แฟชั่นเสื้อผ้าในยุคนี้จะมีเสื้อหลากรูปทรง หลายดีไซน์ ให้สาวๆ ได้เลือกสวมใส่ แต่เสื้อเชิ้ตก็ยังคงเป็นสไตล์ชุดเก่งที่สาวน้อยสาวใหญ่ต้องมีอยู่ในตู้เสื้อผ้า ด้วยคุณสมบัติที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส แถมยังสามารถเปลี่ยนลุคแปลงโฉมให้เป็นสาวทำงานคนเก่ง หรือสาวเก๋เท่ในวันสบายๆ ได้อย่างลงตัว

สำหรับการสวมใส่เสื้อเชิ้ตในสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าวอย่างเมืองไทย อาจจะทำให้คุณต้องเผชิญกับสภาพเหงื่อไหลโทรมกายได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อผ้าอย่าง คอตตอน ยูเอสเอ และ คอตตอน อินคอร์ปอเรต จึงให้คำแนะนำว่า ควรเลือกเสื้อเชิ้ตที่ตัดเย็บจากผ้าฝ้ายธรรมชาติ 100% เพราะเนื้อผ้ามีความยืดหยุ่นในทุกอิริยาบถทำให้สวมใส่สบาย ไม่ระคายเคืองผิว และสามารถช่วยระบายอากาศได้ดีอีกด้วย 

Fashion ลายตาราง (อีกสักที)  http://webboard.yenta4.com/topic/511568

//มิกซ์แอนด์แมตช์ เป็นสไตล์ตัวเอง 

เดรสเชิ้ตมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งที่เหมาะสำหรับใส่ไปทำงานแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ หรือจะเปลี่ยนเป็นชุดลำลองก็ทำได้ไม่ยาก ถ้ารู้จักเลือกซื้อแล้วจับมามิกซ์แอนด์แมตช์กับกางเกงหรือกระโปรงที่มีอยู่ก่อนแล้ว

- เสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายสีขาวเข้ารูป ควรเลือกที่มีลูกเล่นและคัตติงดีๆ เช่น เสื้อเชิ้ตปลายแขนพับติดกระดุมแบบฝรั่งเศส ลองจับมาเข้าคู่กับกางเกงผ้าขายาวสีดำ คาดด้วยเข็มขัดหนังเส้นเล็กสีดำหรือสีแดง หรือเข็มขัดแบบสายโซ่เงินและทองเส้นเล็กๆ จะทำให้คุณดูเป็นสาวหวานคลาสสิก

- เสื้อเชิ้ตสีขาวคอลึก เมื่อหยิบมาแมตช์กับกระโปรงเข้ารูปปลายตวัดออก อย่างที่มักจะเรียกกันว่ากระโปรงทรงหางปลา คาดทับด้วยเข็มขัดเส้นจิ๋วและรองเท้าส้นสูง จะยิ่งทำให้คุณดูสวยสง่าแอบเซ็กซี่ และไม่เฉิ่มเชยอย่างการสวมเชิ้ตสีขาวติดกระดุมสูงถึงคอกับกระโปรงจีบรอบหรือกระโปรงทรงเอธรรมดาๆ อีกด้วย

- เสื้อเชิ้ตลายทางหลากสีติดกระดุม ลองจับมาเข้าคู่กับกางเกงสีกากี แล้วหาเข็มขัดที่มีสีเดียวกับลายเสื้อสีใดสีหนึ่งหรือเข็มขัดหนังสีครีมมาคาด จะช่วยให้ดูสดใสมีชีวิตชีวา แต่หากสาวคนไหนไม่ชอบกางเกงสีครีมก็สามารถหยิบเชิ้ตลายทางหลากสีมาสวมคู่กับกางเกงยีนส์แล้วผูกบริเวณเอว แค่นี้ก็สามารถเปลี่ยนลุคให้เหมาะกับวันสบายๆ ได้แล้ว

- เสื้อเชิ้ตแขนสามส่วน หรือเสื้อเชิ้ตแขนสั้นที่นิยมใส่ไว้ใต้เสื้อสูท ควรเลือกเสื้อเชิ้ตที่มีดีไซน์หวานๆ เช่น ขอบชายเสื้อจับจีบ มีลายฉลุ หรือมีลายระบายด้านหน้า แล้วจับเข้าคู่กับเสื้อสูท ก็จะได้เป็นชุดทำงานสำหรับสาวคนเก่งที่ดูไม่เคร่งขรึมจนเกินไป

- เสื้อเชิ้ตแขนสามส่วนยังสามารถใส่เป็นเสื้อลำลองสำหรับวันหยุด ด้วยการใส่กับกางเกงยีนส์ขาเดฟแบบเต็มตัว หรือพับขาให้เป็นกางเกง 4 ส่วน สวมรองเท้าคัตชูส้นเรียบช่วยเพิ่มเสน่ห์แบบทะมัดทะแมงให้คุณสาวๆ ได้ไม่ยาก

- เสื้อเชิ้ตสีสันสดใส นำมาเข้าคู่กับกับกางเกงยีนส์ขาสั้นตามสมัยนิยม สวมรองเท้าสานไปเดินชายหาด หรือใส่คู่กับรองเท้าส้นสูงและกระเป๋าใบเก่ง ควงคนพิเศษไปดูหนังก็เก๋ไม่เบาทีเดียว


//เคล็ดไม่ลับสาวกเสื้อเชิ้ต 
เคล็ดลับการเลือกเสื้อเชิ้ตให้เหมาะสมกับรูปร่างและสีผิวว่า ?เส้น? และ ?สี? มีส่วนช่วย (หลอกตา) ได้มาก อาทิ สีอ่อนจะให้ความรู้สึกกว้าง ส่วนสีเข้มจะให้ความรู้สึกแคบ ลายขวางจะทำให้ดูกว้าง และลายดิ่งจะทำให้ดูสูงขึ้น 

- สาวช่วงอกเล็ก ให้เลือกเสื้อเชิ้ตที่มีระบายตรงหน้าอก หรือแบบจีบรูด ควรเลือกที่มีเนื้อผ้าหนา ไม่ควรเลือกผ้าสแปนเด็กซ์ หรือชีฟอง เพราะจะยิ่งรัดรึงทำให้ดูแบนราบยิ่งขึ้น

- สาวช่วงอกใหญ่ การสวมใส่เสื้อเชิ้ตจะทำให้รูปร่างดูตันและอึดอัด มีวิธีแก้ไขโดยการปลดกระดุมเสื้อ 2 เม็ดบน เพื่อเผยให้เห็นผิวเยอะที่สุด แต่ควรระวังไม่ให้โป๊ โดยอาจสวมเสื้อแจ็กเกตคลุมทับอีกชั้น

- สาวสะโพกใหญ่-ไหล่เล็ก ให้แก้ไขโดยการเลือกสวมเสื้อที่มีจีบระบายหรือจีบรูดคล้ายสาวที่มีช่วงอกเล็ก โดยอาจจะเลือกลายเสื้อแบบที่มีลายทแยงขึ้นเพื่อช่วยหลอกตาให้ดูไหล่กว้างขึ้นได้ด้วย

- สาวไหล่กว้างกว่าสะโพก ควรเลือกกระโปรงทรงบอลลูนหรือกระโปรงจับจีบพองๆ มาสวมกับเสื้อเชิ้ตเพื่อให้ดูสมดุลกันยิ่งขึ้น
แฟชั่น ลายสก๊อต ลายตาราง หมากรุก # 1 http://webboard.yenta4.com/topic/499690 

//ดูแลถูกวิธีมีใส่ได้อีกนาน 

เดรสเชิ้ตที่ถักทอด้วยผ้าฝ้ายธรรมชาติไม่ว่าจะมาจากสหรัฐอเมริกา อิตาลี หรืออียิปต์ บางแบรนด์มีการทอด้วยความพิเศษที่จะช่วยให้ไม่เกิดรอยยับ คงรูปทรงของโครงเสื้อ และยังช่วยเสริมบุคลิกให้ดูเนี้ยบมากขึ้น จึงทำให้ราคาเขยิบสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นคุณผู้หญิงจึงควรใส่ใจดูแลรักษาเสื้อเชิ้ตอย่างพิถีพิถันเพื่อให้มีเชิ้ตตัวเก่งไว้ใส่ได้นานๆ

- การรักษาสีผ้าให้สดใสอยู่เสมอ ก่อนนำเสื้อเชิ้ตไปซักควรกลับด้านในของตัวเสื้อออกมา ปรับอุณหภูมิของน้ำให้เหมาะสมตามแผ่นป้ายแนะนำที่ติดอยู่กับเสื้อ หากไม่ได้ปั่นแห้งให้ตากเสื้อไว้ในที่ร่มที่อากาศถ่ายเทได้ดี หากปั่นแห้งหลังจากปั่นแห้งแล้วให้นำเสื้อออกมาแล้วพับทันทีเพื่อลดรอยยับให้มีน้อยที่สุด

- ถ้าเสื้อเชิ้ตเปรอะเปื้อนรอยคราบต่างๆ ให้ลงน้ำยากำจัดคราบบนรอยคราบทันที แต่มีข้อควรระวังในการใช้น้ำยาขจัดคราบ โดยควรทดสอบกับผ้าอื่นๆ ก่อนว่าจะไม่ทำลายสีผ้าส่วนที่ไม่ได้เลอะรอยเปื้อนนั้น

Tips คราบเหลืองจากน้ำยาดับกลิ่นกาย ให้ใช้น้ำมะนาวสดทาลงบนรอยคราบ ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น เสร็จแล้วจึงค่อยนำไปซักด้วยผงซักฟอกและน้ำยาซักผ้าขาว สำหรับคราบเหลืองที่ติดทนนาน ให้ใช้น้ำยากัดผ้าขาวผสมน้ำแล้วแช่ไว้หลายๆ ชั่วโมงก่อนนำไปซัก ส่วนคราบจากเครื่องดื่มผสมน้ำตาล เช่น น้ำขิง ควรขจัดคราบออกทันทีไม่ควรรอจนถึงเวลาซักผ้า เพราะจะทำให้คราบติดทนจนขจัดไม่ออก 

- การดูแลปกเสื้อ ปกเสื้อเชิ้ตเป็นส่วนหนึ่งที่มีรอยคราบสกปรกมากและมักจะเป็นส่วนที่เปื่อยขาดก่อนส่วนอื่นๆ ของตัวเสื้อ วิธีป้องกันคือก่อนรีดปกเสื้อเชิ้ตทุกครั้งให้นำเทียนไขมาถูให้ทั่วก่อน เพราะเทียนไขจะช่วยเคลือบบริเวณคอปกเสื้อเชิ้ตไม่ให้ขาดรุ่ยง่าย

แค่รู้จักเลือกเสื้อเชิ้ตแล้วจับมามิกซ์แอนด์แมตช์ให้เข้ากับเสื้อผ้าอื่นๆ ในตู้เสื้อผ้า แถมเรียนรู้วิธีการถนอมเสื้อผ้าอย่างถูกวิธี แค่นี้ก็จะทำให้สาวๆ มีเสื้อเชิ้ตตัวเก่งให้ใส่สวยๆ ได้อีกนาน ไม่เปลืองเงินในกระเป๋าสตางค์อีกด้วย

ค ว า ม รั ก คื อ . . .


1. ความรักคือ โชคอย่างหนึ่งเพราะใช่ว่าทุกคนจะมีได้
2. ความรักเป็นได้ทั้งมือเเละผ้าพันเเผลเวลาเสียใจ
3. ความรักคือ สิ่งเติมเต็มให้ชิวิตไม่รู้สึกขาดอะไรไปอย่างนึง
4. ความรักคือ ความหวัง กำลังใจ เเละศรัทธาในกันเเละกัน
5. ความรัก มีความลับอยู่อย่างหนึ่งว่าไม่ได้รักในสิ่งที่ทำให้เรามี ความสุขเเต่มีความสุขใน สิ่งที่เรารักต่างหาก
6. ความรักคือ ศิลปะ ที่คนมีรักเท่านั้นที่จะเข้าใจเเละเห็นคุณค่า
7. ความรักคือ โอกาส ที่เราจะได้พิสูจน์จิตวิญญาณของตัวเอง
8. ความรักคือ สิ่งที่ทำให้คนฉลาดกลายเป็นคนโง่ ทำให้คนโง่กลาย เป็นคนฉลาด
9. ความรัก เมื่อสูญเสียไปเเล้วก็ยังดีกว่าไม่เคยรัก
10. ความรัก มิได้เป็นการก้าวนำหรือก้าวตามเเต่เป็นการก้าวไป พร้อมๆกัน

11. ความรักทำให้คนเราเป็นอิสระจากกฎเกณฑ์เดิมๆของชีวิต
12. ความรักทำให้จดจำคืนพิเศษคืนเดียวไปตลอดชีวิตเพราะทุกคืนที่ ไร้ความรักก็มิอาจเทียบเท่าได้กับคืนนี้เพียงคืนเดียว
13. ความรักคือการยอมเป็นน้ำเย็นในขณะที่อีกฝ่ายร้อนเป็นไฟ
14. ความรักที่มีมาเป็นปีๆก็สามารถพังทลายลงได้เพียงเสี้ยววินาที
15. ความรักจะยาวนานหรือจะเเสนสั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับวิธีที่รัก
16. ความรักกว่าจะพบเจอได้นั้นเเสนยากอย่าให้มันจบสิ้นเพียววัน เดียว
17. ความรักสามารถเกิดขึ้นใหม่ได้ตลอดเวลาเหมือนถ่านไฟเก่าที่ กำลังคุโชน
18. ความรักต่อให้บอกกันทุกวันว่ารักก็ไม่มีคำว่ามากเกินไปหรอก เเต่ความเกลียดสิบอกกันครั้งเดียวก็คงไม่อยากได้ยินอีกต่อไป
19. ความรักถ้าไม่รักเเล้วต่อให้พูดมากเท่าใดก็ไม่สามารถรักกันได้
20. ความรักสามารถให้อภัยกันได้เสมอโดยไม่มีเงื่อยไขว่ากี่ครั้ง

21. ความรักรักได้เเต่อย่าหลงเพราะถ้าหลงเวลาเลิกเเล้วจะเจ็บปวด
22. ความรักอยู่เหนือคำทำนายเเละจะไม่มีวันเป็นไปตามคำพยากรณ์ ได้
23. ความรักคือสิ่งแปลกใหม่ที่จะทำให้มุมมองของคุณเปลี่ยนไปจาก เดิม
24. ความรักทำให้คุณอยู่นิ่งๆเงียบๆได้นานกว่าเดิม
25. ความรักคือสิ่งที่ทำให้เกิดประกายไฟในหัวใจ
26. ความรักคือการเริ่มคิดเป้าหมายเเห่งชีวิต
27. ความรักคือการร่วมฝัน ร่วมปันใจเเละก้าวไปในชีวิต
28. ความรักคือการอยู่เคียงข้างกันเสมอไม่ว่าอีกฝ่ายจะตกต่ำเพียงใด
29. ความรักไม่ว่าจะเป็นเเบบไหนยังไงมันก็ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
30. ความรักเป็นนามธรรมที่มองไม่เห็นเเต่สัมผัสได้ด้วยหัวใจ

31. ความรักทำให้วันเลวร้ายไม่เป็นวันเลวร้ายที่สุด
32. ความรักทำให้วันที่เเสนเศร้ากลายเป็นวันที่สุขที่สุดได้
33. ความรักเป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่สามารถจะหาได้ง่ายตามท้องถนน
34. ความรักทำให้อะไรดีงามได้เสมอ
35. ความรักที่รีบร้อนมักจะพบกับจุดสิ้นสุดได้รวดเร็วเสมอ
36. ความรักคือสิ่งที่เเม้จะทำความเจ็บปวดให้เเต่ก็ไม่มีใครที่กลัวหรือ เกลียดชัง ความรัก
37. ความรักไม่ได้จบลงเเค่การเเต่งงานหรือมีSEXเท่านั้น
38. ความรักคือสิ่งที่คุณจะพบได้เองโดยมิต้องเเสวงหา
39. ความรักคือสิ่งที่ยืนยาวกว่าชีวิตคนคนนึง
40. ความรักส่วนมากมักจะเติบโตมาจากความเป็นเพื่อนเเละมักจะยืน ยาวเสมอ

41. ความรักในยามเเรกรักคือช่วงเวลาของรักที่หวานหอมมากที่สุด
42. ความรักครั้งเเรกเเละครั้งสุดท้ายมักจะเป็นรักในตนเอง
43. ความรักทำให้คนกลายเป็นกวี
44. ความรักไม่ใช่การมองตากันเเต่เป็นการมองไปในทิศทางเดียวกัน
45. ความรักไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใดก็ไม่มีคำว่าสายไป
46. ความรักคือสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตคุณ
47. ความรักทำให้ทุกอย่างสว่างเเละสดใส
48. ความรักคือการพึงพอใจในสิ่งที่รัก
49. ความรักจะมีคุณค่าได้ต่อเมื่อคนที่รักต้องให้เกียรติ์ซึ้งกันเเละกัน
50. ความรักบางทีก็เป็นสะพานทอดไปสู่การเเต่งงาน

เกร็ดความรู้ที่ดีต่อชีวิต

เมื่อวานดูข่าวช่อง 3   มีข่าวนึงที่ทำให้ต้องหันมาตระหนักถึงบางอย่างใกล้ตัว 

1. 
เรื่องขวดน้ำพลาสติกที่บรรจุน้ำดื่มที่ขาย ๆ กันตามห้างสรรพสินค้า เซเว่นอีเลฟเว่น  รวมทั้งที่ไปเติมน้ำมันครบ 800 แถมน้ำ  1 ขวด   อะไรทำนองนั้น ปัจจุบันเพิ่งมีคนตายเพราะการนำขวดพลาสติกดังกล่าวไปบรรจุน้ำดื่มครั้งแล้วครั้งเล่า  โดยสารพิษชนิดหนึ่ง   สามารถละลายออกมาปะปนกับน้ำดื่ม   เนื่องจากขวดประเภทนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ครั้งเดียว   อายุการใช้งานสั้น ๆ เท่านั้น   ดังนั้นจึงไม่สมควรเสียดาย  นำมาบรรจุน้ำดื่มอีก   รวมทั้งน้ำที่มากับขวด   หากแม้ว่าเปิดกินไม่หมดแล้วเก็บไว้ในรถยนต์   ซึ่งรถดังกล่าวอาจจอดที่ ๆ ร้อน ๆ ความร้อนก็มีผลกับสารพิษที่มากับขวดได้ ดังนั้นเมื่อเปิดดื่มแล้ว ควรดื่มให้หมดภายในระยะเวลา  1   สัปดาห์   โดยเฉพาะหากเก็บขวดนั้นไว้ที่ร้อน ๆ ถ้าเก็บที่อุณหภูมิห้องจะปลอดภัยกว่า 

2. 
ม่านพลาสติกที่แขวนในห้องน้ำเพื่อกั้นพื้นที่แห้ง   กับเปียก   มีข่าวแจ้งมาว่ามีนักจุลชีววิทยา   คนนึงในต่างประเทศ   เค้าสังเกตว่าที่ม่านพลาสติกมีคราบดำ   ๆ   ทีแรกเค้าคิดว่าเป็นคราบสบู่   เค้าลองขูดแล้วเอาไปส่องกล้อง   ปรากฏว่าคราบดำ ๆ ดังกล่าวเป็นแบตทีเรียชนิดร้ายแรง   ที่เติบโตโดยอาศัย   การผายลม   การเลอ   การไอ   จาม   ของมนุษย์เรานี่แหละ   เป็นอาหารอย่างดีของมัน   เค้าแนะนำว่า เราควรถอดไปซัก   อาทิตย์ละครั้ง   หรือ   เดือนละ  2 ครั้งก็ได้   หรือถ้าไม่มีเวลาก็เดือนละครั้งก็ยังดี   นอกจากนี้เค้าเตือนว่า   อะไรที่เป็นพลาสติกก็เข้าข่ายเหมียนกัลลลล....ล โดยเจ้าเชื้อโรคเนี่ยมันจะเข้ามาทำอันตรายเราก็ต่อเมื่อ   เราป่วย   มีบาดแผล   คนแก่  คนที่ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ แล้วต้องกินยากดภูมิคุ้มกัน   

3. 
เรื่องคนนอนดึก เราควรพักผ่อนเข้านอนเวลา  3   ทุ่ม   เนื่องจากร่างกายเราต้องการเวลาในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ   ขับของเสียตามอวัยวะต่าง ๆ   ย่อยอาหารให้หมด   ถ้ากินมื้อหนักตอนกลางคืน แถมนอนดึกอีก   รับรองว่าอ้วนพุงพุ้ย แน่นอน   ไขมันเผาผลาญไม่หมดมันเลยสะสมอ่ะ   แต่ถ้านอนดึกเลี่ยงไม่ได้   เพราะขนงานมาทำ   หรือติดงานอะไรก็ตาม   ควรปฏิบัติดังนี้
3.1 
งดเนื้อสัตว์   เช่น   เนื้อวัว   เนื้อหมู   ไก่   เพราะย่อยยาก ลำไส้ต้องทำงานหนัก  
3.2   
หากเราอยากกินเนื้อสัตว์   ก็ควรช่วยลำไส้ด้วยการเคี้ยวให้ละเอียด   ยิ่งเคี้ยวละเอียด   ยิ่งดี จะได้แบ่งเบาภาระลำไส้  
3.2   
ดื่มน้ำขิง ผสม น้ำผึ้ง อุ่น ๆ   หรือ   น้ำอุ่นธรรมดา + น้ำผึ้ง   หรือถ้าไม่มีอะไรเลย  น้ำอุ่นธรรมดา สัก  1 แก้วก็ได้ เหมียน   กัลลล...ล  
3.3   
เวลานอน   ควรทำให้ช่วงท้อง  /   ฝ่าเท้าอุ่น   โดยการห่มผ้า
3.4   
ที่จริงมื้อดึก   ควรเป็นมื้อเบา ๆ อย่างเช่น   ผัก   ผลไม้   นม   ไข่   เนื้อปลา   จะดีกว่า
3.5 
ควรเลี่ยงน้ำเย็น   น้ำอัดลม   เพราะเพิ่มภาระให้ระบบภายในร่างกาย   ร่างกายเราต้องความร้อนเพราะช่วยในการย่อยอาหาร   หากดื่มแต่น้ำเย็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมื้ออาหาร   จะทำให้ร่างกายเราต้องพยายามปรับอุณหภูมิ   ให้อุ่นเหมาะสมก่อน   แล้วจึงนำไปใช้   การดื่มน้ำอัดลมก็ไม่มีประโยชน์อะไร   เพิ่มกรดให้ร่างกาย   แถมมีน้ำตาลที่สะสมตามร่างกายอีก 

**** 
ถ้าอยากกินเนื้อสัตว์   ควรกินเวลา   7.00 น - 9.00   น. เนื่องจากกระเพาะเรามีสภาพเป็นกรดสูงมากที่สุด   ดังนั้นมื้อเช้าจะจำเป็นมาก ๆ ถ้าอดมื้อเช้าไปนาน ๆ ขั้วกระเพาะเราจะเป็นปุ่มปม   และนานเข้า ๆ ก็กลายเป็นมะเร็งในกระเพาะ 

อย่าลืมดื่มน้ำให้ได้วันละ  8 แก้วนะ   น้ำสะอาดจะช่วยล้างของเสีย   ออกจากร่างกาย   อย่าขี้เกียจลุกไปห้องน้ำเด็ดขาด 

ห้ามอดหลับอดนอนตั้งแต่ ตีหนึ่ง เด็ดขาด   เนื่องจาก   ถุงน้ำดีกำลังย่อยไขมัน   ถ้าอดนอนเวลานี้บ่อย ๆ จะเป็นนิ่วในถุงน้ำดี 

ห้ามกินนมตอนเช้า   แทนข้าวเช้า   เนื่องจาก ตอนเช้ากระเพาะเป็นกรดสูงมาก   นึกสภาพดูหากเราบีบน้ำมะนาวลงในนม   จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมี   กลายเป็นคอลลอยด์ มันไม่ย่อย นะจ๊ะ   ถ้าดื่มนมตอนท้องว่างแบบนี้ติดต่อกันเป็นประจำแทนข้าวเช้า   ระวังมะเร็งในไขกระดูกนะจ๊ะ   แต่ถ้าเป็นช่วงหลังอาหารเช้า   หรือ   ตอนบ่ายไปแล้ว   หรือตอนเย็นดื่มได้ตามปกติจ้า   มื้อเย็นอาจเป็นมื้อง่าย ๆ อย่างนม   กับไข่ก็ไม่ว่ากัน 

ถั่วต่าง ๆ รวมทั้งธัญพืชสารพัดอย่าง   เช่น ลูกเดือย   ข้าวฟ่าง   ฯลฯ   มีประโยชน์ต่อลำไส้   คือ ช่วยกวาดเชื้อโรค   +   แบตทีเรียชนิดไม่ดี ออกจากลำไส้เรา   ควรกิน  อาทิตย์ละครั้ง   อย่างน้อย 

พืชผักสีเขียว  มีคลอโรฟิว ช่วยทำให้เม็ดเลือดลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดี   เซลแต่ละเซลล์จะแข็งแรงเมื่อมีออกซิเจนไปหล่อเลี้ยง ก่อนเอาผักมากิน   เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารพิษ อย่าลืมแช่น้ำส้มสายชู  45   นาทีนะจ๊ะ 

เงิน เวลา และความรัก

เค้าบอกกันว่า เงินเป็นสิ่งที่มีค่า....สามารถซื้ออะไร อะไรก็ได้ แต่ไม่ได้ทุกอย่าง แต่ก็เกือบทุกอย่าง

เค้าบอกกันว่า เวลาเป็นสิ่งที่มีค่า....ต้องใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ อย่าปล่อยให้มันผ่านไปเฉยๆ

เค้าบอกกันว่า...ความรักเป็นสิ่งที่มีค่ามากมาย....สามารถทำให้คนหนึ่งเปลี่ยนโลกทั้งใบของตัวเองไปเลยก็ได้

ทั้งสามอย่างต่างก็เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก แต่มันก็มีความเหมือนและแตกต่างกัน
สิ่งที่ทำให้มันเหมือนกันก็คือ

เป็นเป็นสิ่งที่มีค่า
เป็นเป็นสิ่งที่ต้องใช้อย่างคุ้มค่า
เป็นเป็นสิ่งที่ต้องดูแลรักษา
เป็นเป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้
เป็นเป็นสิ่งที่สามารถซื้อสิ่งต่างๆได้ --เงินซื้อของ เวลาซื้อใจ ความรักซื้อความรู้สึก

แต่หลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้มันแตกต่างกัน................

แม้จะมีเงินมากเท่าไร.....เราก็ไม่สามารถซื้อเวลาที่ผ่านมาแล้วให้กลับมาอีกครั้งได้
แม้จะมีเงินมากเท่าไร.....เราก็ไม่สามารถซื้อความรักที่จริงใจได้เลยแม้สักบาทเดียว
แม้ว่าเราจะมีเวลามาก....แต่เวลาที่เพิ่มขึ้นโดยที่เราไม่ทำอะไรมันก็ไม่ทำให้เรามีเงินมากขึ้น
แม้ว่าเราจะมีเวลามาก....แต่ถ้าเราอยู่เฉยๆ ไม่มีความรักที่ไหนจะวิ่งเข้ามาคนที่ไม่ทำอะไร
แม้ว่าเรามีความรักตลอดเวลา........เราก็ไม่สามารถเรียกเวลาที่ผ่านไปกับความรักที่ผิดพลาดกับมาได้
แม้ว่าเรามีความรักมากเท่าไร......เราก็ไม่สามารถแลกมันเป็นเงินได้สักบาทเดียวเช่นกัน

เราจะปล่อยเวลาให้ว่างเปล่าไปโดยไม่ออกไปไขว่คว้าความรักที่เราอยากได้งั้นเหรอ
เราจะปล่อยเวลาให้ว่างเปล่าไปโดยไม่ออกไปทำให้ได้มาซึ่งเงินใส่กระเป๋างั้นเหรอ
เราจะปล่อยเวลาให้ไร้ประโยชน์งั้นเลยเหรอ
เราจะเลือกใช้เงินตามความพอใจโดยไม่ได้ความรักอะไรสักอย่างเลยงั้นเหรอ
เราจะเลือกใช้เงินเพื่อจะใช้ให้คนอื่นทำโดยที่เราไม่ต้องทำเองทั้งๆที่เราทำเองได้ให้เสียเวลางั้นเหรอ
เราจะเลือกใช้เงินให้ไร้ประโยชน์งั้นเลยเหรอ
เราจะให้ความรักที่เรามีอยู่ไม่ให้สูญเปล่ากับเวลาได้งั้นเหรอ
เราจะให้ความรักที่มันไม่ใช่เผาผลาญเงินเราไปเรื่อยๆโดยไม่ได้รับอะไรเลยงั้นเหรอ
เราจะให้ความรักของเราไร้ค่างั้นเลยเหรอ

เงิน เวลา และความรัก มักอยู่ด้วยกันผูกติดกันอยู่เสมอโดยที่เราไม่ได้รู้ตัวเลย
ความรักในยุคนี้อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเวลาและไม่มีเงิน
เวลาจะหมดไปเร็วถ้ารักคงดี แต่จะเดินช้าๆเหมือนตอกย้ำถ้ารักเลวร้าย
เงินจะเหลือถ้าใช้เวลาให้เป็นเงินแต่จะหมดถ้ารักไม่เป็น

ไม่รู้ว่าคิดอย่างไรแต่เราต้องใช้ เงิน เวลา และความรักให้เป็น ให้ดี ให้มีประโยชน์ นะ

Friday, October 12, 2012

ถ้ารู้ตัวว่าขาดเขาไม่ได้ ก็อย่าปล่อยเขาจากไปง่ายๆ





ถ้ารู้ตัวว่าขาดเขาไม่ได้
ก็อย่าปล่อยเขาจากไปง่าย

           คุณจะปฏิเสธไหมว่า เวลาที่แฟนคุณบอกคุณว่า...เขาจะไปจากคุณแล้ว คุณรู้สึกมีเยื่อใยอะไรบ้างเลย เรื่องจริงก็คือ ในนาทีนั้น ผู้หญิงทุกคนจะต้องใจหายอย่างรุนแรงที่สุดในชีวิต 

          คุณกัดฟัน เหมือนที่ฉันเคยกัดฟัน
          คุณมีน้ำตาท่วมอยู่ในใจ เหมือนที่ฉันเคยเป็น

          เพียงแต่ปล่อยให้มันไหลออกมาไม่ได้ เพราะน้ำตามันหมายถึงการเหนี่ยวรั้ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงใจแข็งไม่เคยทำ เราทำไม่ได้! แต่เมื่อเขาไปแล้ว ทุก ๆ การกลั้นของเราก็จบลง พร้อมกับน้ำตาแห่งความเสียดายอย่างสุดซึ้ง นาทีนั้นเราจะเริ่มสับสนแล้วว่า ทำถูกหรือเปล่าที่ปล่อยให้เขาไปง่าย ๆ แบบนั้น แต่คำตอบก็ชัดอยู่ในใจแล้วว่า ผิดที่สุดในชีวิต ไม่น่าเลย

          แล้วทำไมจะต้องยินยอมให้ทุกอย่างเป็นอย่างนั้นด้วยล่ะ?

          ทำไมไม่ฝืน ไม่หวง ไม่ห้าม หรือทำอะไรสักอย่าง ทำไมถึงเลือกที่จะเอาชนะเขาในนาทีสุดท้ายแค่นาทีเดียว แล้วสุดท้ายต้องกลายเป็นคนที่พ่ายแพ้ไม่เหลืออะไรสักอย่าง ทำไมคุณไม่เอาชนะเอาด้วยการไม่ยินยอมให้เขาไป เพื่อให้ชีวิตคุณที่ยังเหลือ ได้เสพสุขกับการมีเขาไปนานที่สุด

          ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ที่ทำให้คุณกับเขาต้องมีปัญหากัน รุนแรงถึงขั้นที่มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดคิดจะเลิกราไป คุณคงรู้ว่าในเวลานั้น ความรักที่คุณมีให้กันมันยังอยู่ และมันยังเปี่ยมล้น เพียงแต่ว่าทุกย่างถูกอารมณ์ปิดกั้น

          คนที่จะไปแล้วไม่มีใครห้าม ไม่มีใครเหนี่ยวรั้ง เขาย่อมตัดสินใจเด็ดขาดขึ้น เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีค่า หมดความสำคัญแล้ว ถึงคุณจะแค่ทำเป็นเฉยชา เพราะต้องการให้เขาเปลี่ยนใจด้วยตัวของตัวเอง บอกว่าจะไปแต่สุดท้ายก็ไม่ยอมไป เพราะตัดใจจากคุณไม่ได้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น มันจะทำให้คุณรู้สึกดีกว่าการที่เขายอมอยู่ เพราะคุณงอนง้อ ขอร้อง แต่ถ้าคุณเฉยชาได้แนบเนียนเกินไป เขาก็จะเชื่อคุณ เขาจะเชื่อสนิทใจว่าคุณน่ะตัดแล้ว ไม่เอาแล้ว และเกลียดเขามากพอที่จะไม่คิดเหนี่ยวรั้งอีกแล้ว แล้วใครล่ะ...จะกล้าอยู่!

          แค่การตัดสินใจในช่วงเวลาสั้น ๆ มันก็สำคัญพอที่จะตัดสินความสุข ความทุกข์ ของหัวใจคุณ

7 ข้อง่ายๆ กับการลดน้ำหนัก


 
  1. การดื่มน้ำเย็นจัดๆ จะทำให้ร่างกายใช้แคลลอรี่มากขึ้น เพื่อปรับอุณหภูมิน้ำให้เท่ากับอุณหภูมิร่างกาย
  2. มหัศจรรย์เครื่องดื่มชาเขียว จิบชาเขียวหลังรับประทานอาหาร ช่วกระตุ้นระบบเผาผลาญอาหารได้เป็นอย่างดี
  3. ถ้าต้องการให้ร่างกายมีความอยากอาหารน้อยลง ลองดื่มชา หรือกาแฟในช่วงพักเบรค รับรองว่าช่วยได้มากเลยทีเดียว
  4. นางแบบระดับโลกอย่าง คลอเดีย ชิฟเฟอร์ ดื่มน้ำมะเขือเทศสดเป็นอาหารว่างระหว่างวัน นอกจากจะทำให้หุ่นดีแล้ว ยังทำให้ผิวพรรณสวยเปล่งปลั่งได้ด้วย
  5. ลองดื่มน้ำแก้วใหญ่ๆ ก่อนกินอาหารว่าง บางทีคุณอาจจะแค่กำลังกระหายน้ำ ไม่ได้ต้องการกินอาหารก็เป็นได้
  6. กินอาหารนอกบ้านครั้งหน้า สั่งน้ำแร่หรือน้ำโซดาเปล่าๆ แทนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เชื่อเถอะว่า แคลอรี่ของคุณจะหายไปเกินครึ่ง
  7. กฎเหล็กข้อสำคัญของสาวๆ คือ ให้ลืมน้ำอัดลมทุกประเภทที่มีอยู่บนโลก แล้วหันมาดื่มน้ำสมุนไพรแทน เพื่อสุขภาพที่ดีกว่า

เคล็ดลับงานครัว


เคล็ดลับงานครัว
งานครัวเป็นงานที่ต้องรักษาความสะอาดอยู่เสมอ เพราะต้องใช้ทำอาหารในครอบครัวหรืองานสังสรรค์ต่าง ๆ ซึ่งต้องมีเรื่องการทำอาหารมาเกี่ยวข้อง เมื่องานเสร็จคราบสกปรกต่าง ๆ ที่เกิดจากการทำอาหารซึ่งบางคราบสกปรกมากและยากเหลือเกิน วันนี้มีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากให้ง่ายขึ้น
 กำจัดคราบน้ำมันบนผนัง
การกำจัดคราบน้ำมันบนผนังคือ น้ำส้มสายชูผสมน้ำร้อนและน้ำยาทำความสะอาดเล็กน้อย ใช้ผ้าชุบน้ำยาบิดพอหมาด ๆ เช็ดบริวณที่เลอะคราบน้ำมันให้ทั่ว แล้วทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วเช็ดอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ใช้ผ้าชุบน้ำสะอาดเช็ดตามอีกครั้งก็ เราก็จะได้ผนังบ้านสะอาดดังเดิม
 กำจัดคราบเขม่าบนผนังห้องครัว
ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำธรรดาเพื่อกำจัดฝุ่นก่อน หลังจากนั้นผสมน้ำยาซักผ้าขาวประมาณ 2 ถ้วย น้ำร้อน 1 ถัง และน้ำสบู่ประมาณ 6 ถ้วย ผสมให้เข้ากันแล้วใช้ผ้าชุบน้ำยาที่ผสมแล้วเช็ดผนังคราบเขม่าที่เลอะ คราบสกปรกก็จะหมดไป
 กำจัดคราบน้ำมันบนเตาแก๊ส
ใช้น้ำข้นข้าวข้นๆ เช็ดบนเตาแก๊ส แล้วรอให้น้ำข้าวแห้งจับตัวเป็นแผ่นแล้วลอกออก คราบน้ำมันก็จะติดมากับแผ่นน้ำข้าวแห้ง หรือให้น้ำข้าวหรือน้ำต้มบะหมี่แบบเจือจางล้างเตาแก๊สก็สามารถกำจัดคราบน้ำมันบนเตาแก๊สได้
 กำจัดคราบสกปรกบนเขียง
หลังจากทำอาหารเสร็จแล้ว กำจัดคราบที่ติดบนเขียงให้ใช้มีดขุดทำความสะอาดเศษอาหารก่อน ล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นใช้น้ำอุ่นค่อย ๆราดเขียง ผึ่งลมให้แห้งหรือตากแดดไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง เขียงก็สะอาดน่าใช้เหมือนเดิม หรืออีกวิธีที่กำจัดคราบสกปรกบนเขียงคือ หลังจากกำจัดเศษอาหารที่ติดบนเขียงแล้ว ให้โรยเกลือทั่วเขียง ทิ้งไว้ทั้งคืน แล้วนำมาล้างน้ำให้สะอาด ก็สามารถใช้เขียงที่สะอาดและปลอดภัยจากเชื้อโรคได้
 กำจัดคราบน้ำมันในห้องครัว
บริเวณที่เลอะน้ำมันมากให้ฉีดน้ำยาทำความสะอาดห้อง แล้วให้ใช้กระดาษทิชชูปูทับเพื่อไม่ให้น้ำยาทำความสะอาดแห้ง ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที คราบน้ำมันส่วนใหญ่จะติดมากับกระดาษทิชชู แล้วเช็ดซ้ำอีกครั้งด้วยทิชชู ก็จะทำให้บริเวณนั้นสะอาด
 กำจัดคราบสนิมบนมีด
1.นำมีดที่เป็นสนิมแช่ในน้ำซาวข้าวประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วใช้ผ้าขัด เท่านี้ก็เหมือนได้มีดใหม่
2.หั่นหอมหัวใหญ่บาง ๆ นำมาถูบนมีดเป็นสนิมแรง ๆ สนิมก็จะมดไป
3.ใส่น้ำในภาชนะใบค่อนข้างพอประมาณให้เต็ม ใส่เกลือเล็กน้อยคนให้เข้ากัน นำมีดมีสนิมไปแช่ 30 นาที จากนั้นนำมาลับกับหินลับมีด ก็สามารถกำจัดสนิมได้แล้วยังทำให้มีดคมขึ้นอีกด้วย
 กำจัดคราบไมโครเวฟ
วิธีทำความสะอาดคือนำภาชนะที่ใช้กับไมโครเวฟได้ใส่น้ำให้เต็มเอาเข้าเครื่อง ปล่อยเครื่องทำงานจนน้ำในภาชนะเดือด ไอน้ำจะทำให้คราบต่าง ๆ อ่อนตัว หลังจากนั้นใช้กระดาษทิชชูชุบน้ำหมาดเช็ดคราบสกปรกไมโครเวฟ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำยาทำความสะอาดเช็ดอีกครั้ง
 กำจัดกลิ่นให้ห้องคร้ว
นำหม้อตั้งไฟ หยดน้ำส้มสายชูลงไป ความร้อนจากเตาไปจะทำให้น้ำส้มสายชูระเหย กลิ่นของส้มสายชูจะช่วยขจัดกลิ่นเหม็นต่าง ๆ ในห้องครัวได้ หรือนำเปลือกส้ม เปลือกกล้วยมาเผาบนเตาแก๊ส ก็จะช่วยขจัดกลิ่นเหม็นต่าง ๆ ในห้องครัวได้เหมือนกัน
 กำจัดกลิ่นคาวในห้องครัว
เมื่อเศษอาหารสดถูกทิ้งไว้นาน ๆ มักเกิดกลิ่นเหม็นคาว แม้จะนำถุงขยะไปทิ้งแล้ว กลิ่นดังกล่าวก็ยังคงอยู่ ผสมแอลกกฮอล์กับน้ำอย่างเจือจางใส่กระบอกฉีด ฉีดบนขยะที่ทำให้เกิดกลิ่น หรือฉีดตามมุมต่าง ๆ ในห้องครัว จะช่วยกำจัดกลิ่นคาวได้
 กำจัดฝาหม้อไร้คราบน้ำมัน
ใส่น้ำในหม้อปิดฝาตั้งไฟต้มให้เดือดประมาณ 15 นาที คราบน้ำมันที่ติดอยู่บนฝาหม้อจะอ่อนตัว ใช้ผ้านุ่ม ๆ เช็ดฝาหม้อจะสะอาดเหมือนของใหม่เลย
 กำจัดกลิ่นอับชื้นในตู้เก็บถ้วย ชาม
ให้นำสบู่หอมไปใส่ในตู้เก็บถ้วย ชาม หรือนำกากใบชาตากแห้งใส่ถุงโปร่งวางไว้ตามมุมตู้ จะช่วยกำจัดกลิ่นอับชื้นได้
 กำจัดกลิ่นติดกระทะ
ให้นำใบชาใส่ในกระทะ เติมน้ำต้มให้เดือด นำไปล้าง จะกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ หรือจะเทน้ำส้มสายชูในกระทะตั้งไฟให้ร้อน นำไปล้างก็ช่วยกำจัดกลิ่นติดกระทะได้เหมือนกัน

10 สัญญาณที่บอกว่า เขากำลังจะทิ้งคุณแล้ว


10 สัญญาณที่บอกว่า เขากำลังจะทิ้งคุณแล้ว
1. เขาไม่พูดเรื่องอนาคตอีกแล้ว ไม่เป็นแม้แต่จะออกความเห็นว่าจะไปดินเนอร์ที่ไหน..

2. เขาเก็บข้าวของทุกอย่างที่คุณทิ้งไว้ที่บ้านเขาใส่กล่อง และเก็บไว้ที่ชั้นล่างสุดของตู้เสื้อผ้า โดยให้เหตุผลว่า "จะได้แน่ใจว่าไม่มีอะไรหาย"..

3. คุณเพิ่งไปเห็นว่าของขวัญวันครบรอบราคาแพงที่คุณให้เขา ไปประกาศขายอยู่ใน ebay..

4. เพื่อนๆ คุณทำเป็น "แกล้งลืม" หนังสือ เรื่อง He's Just Not That Into You (เขาไม่ได้ชอบคุณขนาดนั้นหรอก) ไว้ที่บ้าน และก็ไม่ยอมเอาคืนจนกว่าคุณจะอ่านจบ

5. หลังจากที่คุณบอกเขาว่าเขาจะทำอะไรก็ได้ เขาแว้ดกลับมาว่า "ทำไมคุณถึงได้พยายามจะควบคุมผมนัก"

6. ความคิดเรื่องล้อเล้นสนุกของเขาตอนนี้ คือ การขอเบอร์โทรศัพท์สาวๆ ต่อหน้าต่อตาคุณ

7. เขามักมีเหตุผลในการไม่รับโทรศัพท์และไม่ตอบข้อความ SMS ที่คุณส่งไปหา

8. คุณบอกเขาว่าคุณต้องการความใกล้ชิดและการแสดงความรัก และขาบอกคุณอย่างสุภาพว่า นั้นเป็นจินตนาการไร้สาระแบบเด็ก ๆของคุณ

9.เขามักจะเหนื่อยเมื่อคุณคึก แต่เขากลับไปเที่ยวกับเพื่อนๆ จนถึงตีสี่

10. เขาเริ่มมีธุระไปประชุมหรือสัมมนานอกเมืองนาน ๆ บ่อยขึ้น ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ทำงาน และไม่ใช่แค่นั้น เขายังยืนยันที่จะเอาแปรงสีฟันอันที่เขาทิ้งไว้ที่บ้านคุณไปด้วย

7 วิธีเอาชนะริ้วรอย


ในปัจจุบันอาจพบผลิตภัณฑ์ต่อต้านริ้วรอยบนเคาน์เตอร์ความงามเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่อวดสรรพคุณว่าซึมลึกฟื้นฟูเซลล์ผิวสู่ระดับยีน แต่อย่างไรก็ตามการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตในแบบง่ายๆ ก็นับเป็นทางลัดที่ช่วยป้องกันและต่อต้านริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะ 7 วิธีคืนผิวสวยต่อไปนี้ 
 
    1.ปกป้องผิวของคุณจากแสงแดด  
    แม้ริ้วรอยก่อนวัยเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะธรรมชาติของมนุษย์หากอายุเพิ่มมากขึ้น ก็ย่อมส่งผลให้เกิดริ้วร้อยบนใบหน้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม พบว่าริ้วรอยที่เกิดขึ้นบนใบหน้านั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากแสงแดดที่เรามองเห็นถึงร้อยละ 90 เลยทีเดียว และริ้วรอยจะไม่ปรากฏให้เห็นในขณะที่คุณกำลังมีอายุน้อย แต่มันจะโผล่บนหน้าก็ต่อเมื่อคุณเริ่มมีอายุมากขึ้นนั่นเอง ดังนั้นเพื่อเป็นการปกป้องริ้วรอยก่อนวัย แนะนำว่าคุณสาวๆ ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF15 เป็นประจำทุกวัน (รวมถึงในวันที่มีเมฆมากเพราะแสงยูวีจะส่องผ่านทะลุก้อนเมฆได้) ส่วนในวันที่มีแดดแรงก็ควรทาครีมที่มี SPF สูงๆ สลับกันไป เพียงเท่านี้ก็ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้แล้ว 
    2.เลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบสูง 
    การรับประทานอาหารไม่เพียงพอ ก่อให้เกิดปัญหาริ้วรอยได้ นอกจากนี้ น้ำตาลซึ่งเป็นเครื่องชูรสให้กับอาหารของหลายๆคน ก็สามารถทำให้เกิดริ้วรอยได้เช่นกัน เพราะเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูง จะเกิดปฏิกิริยาที่เรียกกันว่า “ไกลเคชั่น” หรือภาวะน้ำตาลที่เหลือใช้ในร่างกาย ไปทำปฏิกิริยากับโปรตีนทำให้เกิดสารพิษ และส่งผลให้คอลลาเจนในผิวเกิดภาวะแข็งตัว และลดจำนวนลงจนนำไปสู่การเกิดริ้วรอยนั่นเอง ดังนั้นแนะนำว่าก่อนบริโภคอาหารทุกชนิดควรตรวจสอบว่ามีน้ำตาล เป็นส่วนประกอบมากน้อยเพียงใด แต่ทางที่ดีการงดอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาลในปริมาณที่สูง นอกจากจะช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวแล้ว ยังป้องกันโรคอ้วนได้อีกด้วย 
    3.งดสูบบุรี่
    “บุหรี่” ไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดีแก่ผู้สูบเท่านั้น แต่มันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจ แต่มันกำลังนำมาซึ่งหายนะสำหรับผิวพรรณของคุณ เนื่องจากควันบุหรี่สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว และยังเป็นตัวขัดขวางออกซิเจนและสารอาหาร นอกจากนี้ การสูบบุหรี่ยังก่อให้เกิดริ้วรอยขึ้นที่รอบปากด้วย 
    4.เก็บกักน้ำในร่างกาย
    หากคุณสาวๆ ต้องการให้ผิวอ่อนนุ่มและเรียบเนียน ดังนั้นการเก็บกักน้ำที่เป็นส่วนประกอบหลักของร่างกายให้คงสภาพอยู่ทั้งผิวภายในและภายนอกจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ การดื่มน้ำตลอดวันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยเก็บรักษาความชุ่มชื่นให้กับผิวภายในของคุณได้ ขณะเดียวกัน ก็ควรเลือกรับประทานผักและผลไม้ที่มีปริมาณน้ำสูง ส่วนการเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวภายนอก แนะนำว่าควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนประกอบของวิตามินอี ซึ่งสกัดได้จากผลอะโวคาโด้และเมล็ดอัลมอนต์ เพราะน้ำมันเหล่านี้จะช่วยหล่อเลี้ยงผิวของคุณให้ชุ่มชื่น เพื่อรับมือกับผิวแห้งที่เกิดจากเครื่องทำความร้อน ตลอดจนเครื่องปรับอากาศทำความเย็นนั่นเอง
    5.ตรวจวัดสายตาเป็นประจำ 
    บริเวณรอบดวงตาเป็นจุดที่ก่อให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายที่สุด โดยเฉพาะรอยตีนกา ซึ่งริ้วรอยเหล่านี้จะเพิ่มมากขึ้นจากอาการนั่งขมวดคิ้ว หรืออาการสายตาเอียงอันเกิดมาจากปัญหาสายตา ดังนั้นหากคุณสาวๆ พบว่าตัวเองกำลังประสบปัญหาสายตาเอียง หรือขาดการมองเห็นที่ดีนั้น แนะนำว่าคุณควรไปตรวจวัดสายตาและตัดแว่น หรืออาจเพิ่มทางเลือกให้กับสายตาด้วยการใส่คอนแทคเลนส์ในกรณีที่จำเป็น 
    6.รับประทานอาหารต่อต้านริ้วรอย 
    ต่อต้านริ้วรอยก่อนวัย ด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่ประกอบไปด้วยสารอนุมูลต้านอิสระ และกรดไขมันโอเมก้า 3 เพราะโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้ชุ่มชื่นจากภายในสู่ภายนอก และยังช่วยป้องกันการระเหยของน้ำในผิว ซึ่งเป็นสาเหตุของความแห้งกร้าน ขณะเดียวกันสารแอนตี้ออกซิแดนซ์ที่พบในผักและผลไม้ที่มีวิตามินอีและวิตามินซี เช่น เมล็ดแฟลกซ์ ผลเบอรี่ และผักโขมที่มีสารลูทีนเป็นส่วนประกอบหลัก จากผลวิจัยล่าสุดได้ชี้ให้เห็นว่าพืชผักเหล่านี้ นอกจากจะช่วยเก็บกักความชุ่มชื่นสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิวแล้ว ยังช่วยลดระดับไขมันในเลือดที่อาจเพิ่มสูงขึ้นจากอนุมูลอิสระด้วยเช่นกัน 
    7.หลีกเลี่ยงความเครียดที่เป็นต้นเหตุของริ้วรอย
    อย่างที่ทราบกันดีว่าความเครียดนั้นเป็นบ่อเกิดของโรคหลายชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมไปถึงความเหี่ยวย่นและริ้วรอยก่อนวัยอันควร ดังนั้นแนะนำให้ลองลดระดับความเครียดลง ด้วยการนั่งสมาธิและออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะเป็นประจำ จะช่วยลดสาเหตุของการเกิดริ้วรอยได้.

9 วิธีดูแลมิตรภาพ


 9 วิธีดูแลมิตรภาพ
 
~ข้อ 1~
เป็นคนรักรอยยิ้ม ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร ขอให้ยิ้มบ่อยๆ คนที่ยิ้มแย้มอยู่เสมอ ย่อมทำให้คนอื่นอยากเข้าใกล้ และอยากเป็นเพื่อน
~ข้อ 2~
ไม่นินทาลับหลัง เวลาเราเอาเพื่อนของเราไปพูดให้เพื่อนคนอื่นฟังอย่างเสียๆหายๆ จะทำให้เรากลายเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ เพราะคนอื่นจะคิดว่าลับหลังเขาเราก็จะเอาเขาไปนินทาเช่นเดียวกัน
~ข้อ 3~
ให้ความสำคัญต่อวันสำคัญของเพื่อน เช่น วันเกิดอาจมีการ์ดเล็กๆให้สักใบ ไม่จำเป็นต้องให้ของขวัญราคาแพง ขอแค่ให้ด้วยใจ และทำให้เขารู้ว่าเรายังไม่ลืมก็พอ
~ข้อ 4~
รู้จักเก็บความลับ เวลาเพื่อนเล่าความลับให้เราฟัง อย่าเอาความลับของเพื่อนไปเล่าให้คนอื่นฟังต่อเด็ดขาดถ้าอึดอัดอยากระบาย ก็เขียนลงในกระดาษ แล้วฉีกทิ้งไปเลย
~ข้อ 5~
กล้าขอโทษและให้อภัย เป็นเพื่อนกันก็ต้องมีทะเลาะกันบ้าง แต่ถ้าเรื่องราวสงบลงแล้ว ขอให้เป็นคนที่กล้าเอ่ยคำขอโทษ และกล้าที่จะให้อภัย
~ข้อ 6~
อยู่เคียงข้างเพื่อนเสมอ แม้เพื่อนจะถูกครูตี หรือถูกคนแกล้ง หรือทุกข์ใจเรื่องอะไรก็ตาม ขอให้เราอยู่เคียงข้าง และรับฟังเพื่อนเสมอ
~ข้อ 7~
ใจกว้าง รับฟัง ถ้าเพื่อนมาพูดอะไรที่เป็นการเตือนหรือเป็นข้อเสียของเรา ขอให้เปิดใจกว้างรับฟัง เพราะสิ่งที่เขาพูดมา เขาย่อมหวังดีเสมอ
~ข้อ 8~
อย่าโกหก เพื่อนไม่ชอบคนโกหก เพราะการโกหกเป็นตัวทำลายมิตรภาพชั้นดี
~ข้อ 9~
ติดต่อกันเสมอ แม้ว่าจะแยกจากกันไปแล้วก็ตาม ขอให้ติดตามไถ่ถามความเป็นไปเสมอ มิตรภาพจะได้ยั่งยืนนะจ๊ะ