Friday, August 24, 2012

อย่าเสียใจในสิ่งที่คุณทํา


เวลารักใคร . . . อย่าเสียใจในสิ่งที่คุณทำ
แต่ . . . จงเสียใจในสิ่งที่คุณไม่ได้ทำ

 
เมื่อเวลาผ่านไป . . . เราอาจจะต้องมานั่งเสียใจ
ว่าวันนั้น . . . ทำไมเราไม่ทำแบบนี้
ถ้าเราทำแบบนี้ . . .เรื่องนั้นอาจจะดีกว่านี้ก็ได้

คนเราไม่อาจย้อนเวลา กลับไปแก้ไขอดีตได้
เพราะอดีตไม่เคยหวนกลับ
เวลา . . . ไม่อาจย้อนคืนโอกาส
ในเรื่องบางเรื่อง . . . อาจจะมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต

ในเมื่อตอนนี้ . . . เรายังมีโอกาสทำสิ่งดีๆ
ทำเรื่องดีๆ ให้กับคนที่เรารัก . . . ก็ทำไปเถอะ
ทำไปเลย . . .ให้ไปเลย . . .


โดยเฉพาะเรื่องความรู้สึกดี
ความรู้สึกห่วงหา และเอาใส่ใจให้ไปเถอะ
ให้ไปเท่าไหร่ก็ได้ . . . เพียงให้อย่างมีสติ
ทำแล้วไม่ทุกข์ไม่กระทบใคร . . . ให้ไปเถอะ
ทำไปเถอะ...ขอให้ทำให้ดีที่สุด.. 

เพราะเมื่อวันเวลาผ่านไป . . . สิ่งต่างๆ อาจผ่านพ้น
บางเรื่องอาจจบและจากไป . . . บางเรื่องอาจคงอยู่ในความทรงจำ
แต่อย่างน้อยเราได้ให้. . . ได้ทำในสิ่งที่อยู่ในใจไปหมดแล้ว
เมื่อเรามานึกถึง . . .มันจะเป็นความทรงจำที่ดีตลอดไป

อย่าเสียใจในสิ่งที่คุณทํา


เวลารักใคร . . . อย่าเสียใจในสิ่งที่คุณทำ
แต่ . . . จงเสียใจในสิ่งที่คุณไม่ได้ทำ

 
เมื่อเวลาผ่านไป . . . เราอาจจะต้องมานั่งเสียใจ
ว่าวันนั้น . . . ทำไมเราไม่ทำแบบนี้
ถ้าเราทำแบบนี้ . . .เรื่องนั้นอาจจะดีกว่านี้ก็ได้

คนเราไม่อาจย้อนเวลา กลับไปแก้ไขอดีตได้
เพราะอดีตไม่เคยหวนกลับ
เวลา . . . ไม่อาจย้อนคืนโอกาส
ในเรื่องบางเรื่อง . . . อาจจะมีแค่ครั้งเดียวในชีวิต

ในเมื่อตอนนี้ . . . เรายังมีโอกาสทำสิ่งดีๆ
ทำเรื่องดีๆ ให้กับคนที่เรารัก . . . ก็ทำไปเถอะ
ทำไปเลย . . .ให้ไปเลย . . .


โดยเฉพาะเรื่องความรู้สึกดี
ความรู้สึกห่วงหา และเอาใส่ใจให้ไปเถอะ
ให้ไปเท่าไหร่ก็ได้ . . . เพียงให้อย่างมีสติ
ทำแล้วไม่ทุกข์ไม่กระทบใคร . . . ให้ไปเถอะ
ทำไปเถอะ...ขอให้ทำให้ดีที่สุด.. 

เพราะเมื่อวันเวลาผ่านไป . . . สิ่งต่างๆ อาจผ่านพ้น
บางเรื่องอาจจบและจากไป . . . บางเรื่องอาจคงอยู่ในความทรงจำ
แต่อย่างน้อยเราได้ให้. . . ได้ทำในสิ่งที่อยู่ในใจไปหมดแล้ว
เมื่อเรามานึกถึง . . .มันจะเป็นความทรงจำที่ดีตลอดไป

ความสุข เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง


ความสุข เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง
ความสุขไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางที่ไปถึง 
คุณบอกกับตัวเองว่า เมื่อได้แต่งงาน และมีลูก ชีวิตของคุณก็จะดีขึ้น
แต่เมื่อมีลูก และลูกของคุณยังเล็กอยู่ คุณก็เกิดความรู้สึกว่า เมื่อเขาโตขึ้นเราคงมีความสุขและสบายขึ้น 

แต่เมื่อลูกโตมากขึ้น จนย่างเข้าสู่วัยรุ่น คุณกลับรู้สึกไม่ได้ดั่งใจอีกครั้ง 
และเมื่อลูกๆ ผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นไปได้ คุณคิดว่า คุณจะมีความสุขมากขึ้น 
แต่คุณกลับบอกกับตัวเองอีกว่า จะรอให้ลูกๆ จัดการกับตัวของเค้าเองให้เรียบร้อยดีเสียก่อน 
บางครั้งคุณคิดว่า ถ้าคุณมีบ้าน มีรถ มีวันหยุดพักร้อนนานๆ และเมื่อถึงวันเกษียณอายุการทำงาน ชีวิตของคุณจะมีความสุขมากที่สุด ..แต่เมื่อเกษียนแล้วก็จริง แต่ทำไมถึงยังไม่มีความสุขสักที 
ความสุขของชีวิตอยู่ที่ไหนกัน? 
แท้จริงแล้ว ความสุขของชีวิต อยู่ ณ ช่วงเวลาขณะนี้ ช่วงเวลาปัจจุบัน ไม่ต้องรอให้ความสุขมาหาเราในอนาคต 
เราควรมีความสุข และพึงพอใจกับความสุขอยู่ในปัจจุบัน 

ชีวิตของมนุษย์ทุกคน ต้องมีสิ่งท้าทายเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ทั้งอุปสรรคต่างๆ หรือบททดสอบชีวิตอันยากเข็ญ แต่ในที่สุดเราก็จะต้องก้าวผ่านไป อุปสรรคกับชีวิตเป็นของคู่กัน 
ดังนั้น เป็นหน้าที่ของเรา ที่ต้องความสุขและความพึงพอใจจากการเดินทางบนถนนแห่งชีวิตนี้ 
ซึ่งจะทำให้ชีวิตมีความสุข มากกว่าที่จะรอให้ถึงจุดหมายปลายทางก่อน แล้วถึงจะมีความสุขได้ 
เริ่มหยุดพูดกับตัวเองเสียทีว่า 
ถ้าฉันลดน้ำหนักได้สัก 5 กิโล ฉันถึงจะมีความสุข 
ถ้าฉันได้แต่งงาน ฉันถึงจะมีความสุข 
ถ้าผมได้ซื้อบ้าน ผมถึงจะมีความสุข 
ถ้าผมได้เกิดเป็นลูกคนรวย ผมถึงจะมีความสุข 
ถ้าคุณหยุดพูดถึงสิ่งเหล่านี้ได้ ชีวิตของคุณก็จะมีความสุข และคุณจะรู้สึกพึงพอใจกับชีวิต 
ตอบคำถาม ต่อไปนี้ 
1. บอกชื่อคน 3 คน ที่รวยที่สุดในโลก 
2. บอกชื่อนางงามจักรวาล 3 คนล่าสุด 
3. บอกชื่อ ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล 3 คนล่าสุด 
4. บอกชื่อนักแสดงนำชาย 3 คนล่าสุด ที่ได้รับรางวัลออสการ์ 

นึกไม่ออกใช่ไหม? ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่มีใครหรอกที่จะจดจำคนเหล่านี้ได้ทั้งหมด .. คนที่ได้รับการยกย่องสรรเสริญ ก็ล้วนล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา  รางวัลต่างๆ เมื่อวางไว้นาน ก็จะถูกฝุ่นจับ แม้แต่ผู้ชนะก็จะถูกลืมในไม่ช้า 
ตอบคำถาม ต่อไปนี้ 
1. บอกชื่ออาจารย์ 3 ท่านที่เคยช่วยเหลือคุณในเรื่องการเรียน 
2. บอกชื่อเพื่อน 3 คนที่ช่วยเหลือคุณในยามที่คุณต้องการ 
3. นึกถึงคน 3 คนที่ทำให้คุณรู้สึกว่า คุณได้เป็นคนพิเศษ 
4. บอกชื่อคน 3 คนที่คุณอยากใช้เวลาด้วย 
นึกออกง่ายกว่าใช่ไหม? นั่นเป็นเพราะว่า .. คนที่มีความหมายต่อชีวิตคุณ ไม่ได้เป็นคนที่ต้องเป็นที่สุด ไม่ได้มีเงินมากที่สุด ไม่ต้องได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะยังมีคนใกล้ตัวคุณอีกหลายคนที่ห่วงใยคุณ คอยให้การดูแลคุณ และเวลาที่มีอะไรเกิดขึ้น ก็จะคอยอยู่เคียงข้างคุณ 
...ไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะมีความสุข มากกว่าช่วงเวลา ณ ปัจจุบันนี้..ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับช่วงเวลาปัจจุบัน 

เดินออกจาก... ความกลัว


มนุษย์เรามีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
แต่ก็มีเหมือนกัน..ที่คิดว่าตัวเองเป็นเต่า
ไม่อยากขยับเขยื้อนตัวเองไปไหน..
ด้วยเหตุผลที่ว่า"ไม่กล้า"
มีหลายคนที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำซักที
เพราะไม่กล้าตัดสินใจ
ไม่กล้าเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดในชีวิต
..ความเปลี่ยนแปลง..
คือสิ่งเดียวที่ทำให้เรารู้ว่าเรากำลังเคลื่อนไหว
ยังไม่ตายไปจากโลกนี้..คนที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
ทนอยู่กับสิ่งเดิมๆมาเป็นเวลานาน
เลยมักท้อแท้เบื่อหน่าย..อยากตายแต่ก็ยังไม่กล้าอยู่ดี
มีหลายคนที่ไม่พอใจในงานที่ตนเองทำอยู่
แต่ไม่กล้าเดินออกมา..
เพราะกลัวว่าสิ่งที่พบเจอข้างหน้าจะแย่ลงกว่านี้

ทำไมเราต้องคิดว่าตัวเองต้องซวย..
สวรรค์มีรางวัลสำหรับผู้กล้า
และมักลงโทษคนอ่อนแอ
ที่แย่ก็จะรู้สึกแย่ลงไปเรื่อยๆทั้งๆที่ยืนอยู่จุดเดิม
ไม่มีใครรู้หรอกว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเรา
แต่เราชอบชีวิตเราที่มีเรื่องราวบ้าง..ไม่ว่าร้ายหรือดี
เพราะมันก็ยังดีกว่าปล่อยให้ชีวิตผ่านไปวันๆ..โดยนึกเรื่องคุยไม่ออก
เพราะเหมือนเดิมทุกวัน
เรามีชีวิตอยู่ชีวิตเดียว..อย่าผูกติดมันกับความกลัว
ที่มันจะบั่นทอนความสุขของเราลงไปเรื่อยๆ
ขนาด"ความรัก"ที่ใครต่อใครบอกว่า มันจะมีทุกข์ตามมาเสมอ
ทุกคนยังกล้าที่จะเผชิญหน้ากับมัน..เรียกร้องที่จะสัมผัสมัน
แล้วชีวิตเราทั้งชีวิตจะปล่อยมันไว้แบบนี้หรอ
ขอเพียงแค่ลมหายใจต่อชีวิตไปวันๆงั้นหรอ
เส้นชัยมีไว้สำหรับคนมีความกล้าที่จะไขว่คว้า
เข้มแข็งและจ้องไว้ที่ปลายทาง..เธอมาไม่ผิดทางแน่
จะเจออะไรมันก็ต้องเจอ


เพราะ
ถ้าไม่ผ่านมันมาบ้าง
จะรู้หรอว่าเรากำลังก้าวไปข้างหน้า

เดินออกจาก... ความกลัว


มนุษย์เรามีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
แต่ก็มีเหมือนกัน..ที่คิดว่าตัวเองเป็นเต่า
ไม่อยากขยับเขยื้อนตัวเองไปไหน..
ด้วยเหตุผลที่ว่า"ไม่กล้า"
มีหลายคนที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำซักที
เพราะไม่กล้าตัดสินใจ
ไม่กล้าเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดในชีวิต
..ความเปลี่ยนแปลง..
คือสิ่งเดียวที่ทำให้เรารู้ว่าเรากำลังเคลื่อนไหว
ยังไม่ตายไปจากโลกนี้..คนที่ไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
ทนอยู่กับสิ่งเดิมๆมาเป็นเวลานาน
เลยมักท้อแท้เบื่อหน่าย..อยากตายแต่ก็ยังไม่กล้าอยู่ดี
มีหลายคนที่ไม่พอใจในงานที่ตนเองทำอยู่
แต่ไม่กล้าเดินออกมา..
เพราะกลัวว่าสิ่งที่พบเจอข้างหน้าจะแย่ลงกว่านี้

ทำไมเราต้องคิดว่าตัวเองต้องซวย..
สวรรค์มีรางวัลสำหรับผู้กล้า
และมักลงโทษคนอ่อนแอ
ที่แย่ก็จะรู้สึกแย่ลงไปเรื่อยๆทั้งๆที่ยืนอยู่จุดเดิม
ไม่มีใครรู้หรอกว่าพรุ่งนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นกับเรา
แต่เราชอบชีวิตเราที่มีเรื่องราวบ้าง..ไม่ว่าร้ายหรือดี
เพราะมันก็ยังดีกว่าปล่อยให้ชีวิตผ่านไปวันๆ..โดยนึกเรื่องคุยไม่ออก
เพราะเหมือนเดิมทุกวัน
เรามีชีวิตอยู่ชีวิตเดียว..อย่าผูกติดมันกับความกลัว
ที่มันจะบั่นทอนความสุขของเราลงไปเรื่อยๆ
ขนาด"ความรัก"ที่ใครต่อใครบอกว่า มันจะมีทุกข์ตามมาเสมอ
ทุกคนยังกล้าที่จะเผชิญหน้ากับมัน..เรียกร้องที่จะสัมผัสมัน
แล้วชีวิตเราทั้งชีวิตจะปล่อยมันไว้แบบนี้หรอ
ขอเพียงแค่ลมหายใจต่อชีวิตไปวันๆงั้นหรอ
เส้นชัยมีไว้สำหรับคนมีความกล้าที่จะไขว่คว้า
เข้มแข็งและจ้องไว้ที่ปลายทาง..เธอมาไม่ผิดทางแน่
จะเจออะไรมันก็ต้องเจอ


เพราะ
ถ้าไม่ผ่านมันมาบ้าง
จะรู้หรอว่าเรากำลังก้าวไปข้างหน้า

อยากให้เปลี่ยนความบกพร่อง เป็นสิ่งที่สวยงาม


อยากให้เปลี่ยนความบกพร่อง เป็นสิ่งที่สวยงาม
ชายจีนคนหนึ่งแบกถังน้ำสองใบไว้บนบ่าเพื่อไปตักน้ำที่ริมลำธาร
ถังน้ำใบหนึ่งมีรอยแตก
ในขณะที่อีกใบหนึ่งไร้รอยตำหนิ และสามารถบรรจุน้ำกลับมาได้เต็มถัง
แต่ด้วยระยะทางอันยาวไกล จากลำธารกลับสู่บ้าน จึงทำให้น้ำที่อยู่ในถังใบที่มีรอยแตกเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ดำเนินมาเป็นเวลา 2 ปีเต็มที่คนตักน้ำสามารถตักน้ำกลับมาบ้านได้หนึ่งถังครึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าถังน้ำใบที่ไม่มีตำหนิจะรู้สึกภาคภูมิใจ ในผลงานเป็นอย่างยิ่ง
ในขณะเดียวกันถังน้ำที่มีรอยแตกก็รู้สึก อับอายต่อความบกพร่องของตัวเอง มันรู้สึกโศกเศร้ากับการที่มันสามารถทำหน้าที่ได้เพียงครึ่งเดียวของจุดประสงค์ ที่มันถูกสร้างขึ้นมา
หลังจากเวลา 2 ปี ที่ถังน้ำที่มีรอยแตกมองว่าเป็นความล้มเหลวอันขมขื่น
วันหนึ่งที่ข้างลำธาร มันได้พูดกับคนตักน้ำว่า
' ข้ารู้สึกอับอายตัวเองเป็นเพราะรอยแตกที่ด้านข้างของตัวข้า ทำให้น้ำที่อยู่ข้างในไหลออกมาตลอดเส้นทางที่กลับไปยังบ้านของท่าน '
คนตักน้ำตอบว่า ' เจ้าเคยสังเกตหรือไม่ว่ามีดอกไม้เบ่งบานอยู่ตลอดเส้นทางในด้านของเจ้า แต่กลับไม่มีดอกไม้อยู่เลยในอีกด้านหนึ่ง
เพราะข้ารู้ว่าเจ้ามีรอยแตกอยู่ ข้าจึงได้หว่านเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ลงข้างทางเดินด้านของเจ้า 
และทุกวันที่เราเดินกลับ ... เจ้าก็เป็นผู้รดน้ำให้กับเมล็ดพันธุ์เหล่านั้น
เป็นเวลา 2 ปี ที่ข้าสามารถที่จะเก็บดอกไม้สวย ๆ เหล่านั้นกลับมาแต่งโต๊ะกินข้าว ถ้าหากปราศจากเจ้าที่เป็นเจ้าแบบนี้แล้ว ... เราก็คงไม่อาจได้รับความสวยงามแบบนี้ได้ '
คนเราแต่ละคนย่อมมีข้อบกพร่องที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง
แต่รอยตำหนิและข้อบกพร่องที่เราแต่ละคนมีนั้น อาจช่วยทำให้การอยู่ร่วมกันของเราน่าสนใจ และกลายเป็นบำเหน็จรางวัลของชีวิตได้
สิ่งที่ต้องทำก็เพียงแค่ยอมรับคนแต่ละคนในแบบที่เขาเป็น
และมองหาสิ่งที่ดีที่สุดในตัวของพวกเขาเหล่านั้นเท่านั้นเอง
มองโลกหลายๆ ด้าน เพราะคนเราไม่ได้มีแต่ข้อเสียเท่านั้น (จริงๆ)

10 อันดับ สุดยอด "ครีมลบรอยดำจากสิว"



อันดับ 1 ในใจสาวๆ หลายคน 

      ซึ่งจริงๆ แล้วก็เป็นอันดับหนึ่งในใจ Punni อยู่เหมือนกันนะเนี๊ย สำหรับHiruscar Postacne เนื้อเจลสีเหลืองใส
คุณสมบัติ : เจลใสซึมซาบเร็ว ใช้แต้มแผลเป็นจากสิวโดยเฉพาะ เช่น รอยหลุมสิว รอยดำ รอยอักเสบแดงและยังช่วยลดสาเหตุของการเกิดสิวใหม่ ช่วยดูแลแผลเป็นที่นูนให้ตื้นขึึ้น
วิธีใช้ : ใช้แต้มวันละ 2-3 ครั้ง เช้า- ก่อนนอน ควรใช้หลังจากบำรุงผิวและใช้ก่อนการแต่งหน้าเป็นประจำจะช่วยให้ลดรอยแผลเป็น ถ้าใช้ต่อเนื่องจะะมีประสิทธิภาพดีขึ้น
ราคา: 350 บาท  ขนาด  10 กรัม
Scar Esthetique ผสมสารสกัดจากเปลือกสน ซึ่งเป็นสารที่จะช่วยสมานแผลเป็นให้หายอย่างเร็วไว ^^
คุณสมบัติ: มีสารสกัดจากหัวหอม เมล็ดองุ่นรวมถึงเปลือกสน ที่จะช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง อันเกิดจากกระบวนการสมานบาดแผลของร่างกาย ยับยั้งการสร้างคอลลาเจนที่มากเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดรอยนูน ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานินที่มากเกินความจำเป็น จึงลดรอยนูนแดง และมีสีคล้ำ ทำให้รอยแผลเป็นจางลง
วิธีใช้ : ทาบริเวณแผลเป็นที่บาดแผลปิดสนิทแล้ว วันละ 3-4 ครั้ง ใช้ติดต่อกันนาน 1-3 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาด และอายุของแผลเป็น 
ราคา: 450 บาท
อันดับ 3 ขอยกให้เจลหลอดเตี้ยๆ ป้อมๆ หลอดนี้ 

     CYBELE Scagel  ลักษณะเป็นเนื้อเจลใส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เนื้อเป็นเจล เกลี่ยง่าย ซึมไว ไม่เหนี่ยวเหนอะหนะ ใช้ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว 
คุณสมบัติ: ช่วยให้ความชุ่มชื้นสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ มีสารสกัดจากมะขามและผลไม้นานาชนิด ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เซลล์ผิวหนังที่เกิดใหม่แข็งแรงขึ้น Punni แอบกระซิบนิดนึง ว่าเคยใช้เป็นการส่วนตัวแล้ว แผลเป็นหายเร็วอยู่คะโดยเฉพาะแผลเป็นที่เพิ่งเป็นใหม่ๆ 
วิธีใช้ : ทาบริเวณแผลเป็นที่บาดแผลปิดสนิทแล้ว วันละ 3-4 ครั้ง ใช้ติดต่อกัน
ราคา : 158 บาท ขนาด 9 กรัม
ตามติดมาด้วยอันดับ 4 เนื้อครีมขาวอวบดีจริงๆ 

     Hirudoid Mild Cream ตัวนี้จะเน้นลบรอยแผลเป็นบนใบหน้า มันจะค่อยๆจางลงอย่างเห็นได้ชัด
คุณสมบัติ:เนื้อครีมอ่อนและบางดีคะ ไม่มีน้ำหอม ไม่เหนียวเหนอะหนะ  บรรเทาอาการอักเสบของผิว มีส่วนผสมของ Mucopolysaccharide polysulphate ( MPS ) ที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของชั้นผิวได้ดี 
วิธีใช้: ใช้ทาบริเวณแผลเป็น วันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน พร้อมถูนวดเบาๆ
ราคา: 
405 บาท ขนาด 50 กรัม / 122 บาท ขนาด 10 กรัม


อันดับ 5 ขวัญใจสาวๆ วัยรุ่นทั้งหลาย

     Smooth E Cream เนื้อครีมเข้มข้น กลิ่นหอม 
คุณสมบัติ: ด้วยส่วนผสมของวิตามินอีธรรมชาติที่ช่วยฟื้นฟูและยืดอายุผิว กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ จึงใช้ได้ผลดีกับการลดรอยแผลเป็นริ้วรอย มีส่วนผสมของโจโจบาออยล์ธรรมชาติ ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ละมุน คงความชุ่มชื่นของเซลล์ผิว
วิธีใช้: ทาบริเวณที่มีปัญหาวันละ 2-3ครั้งหรือบ่อยเท่าที่ต้องการ 
ราคา: 
120 บาท ขนาด 15 กรัม


อันดับ 6 อีกตัวที่ Punni เลิฟอยู่เหมือนกัน

     Scarless มีส่วนผสมจากสารสกัดจากธรรมชาติเพียบ
คุณสมบ้ติ: ตัวนี้โดดเด่นมากเรื่องกลิ่น เพราะหอมมาก สกัดจากธรรมชาติ ช่วยสมานผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอยให้จางลงและเรียบเนียน เนื้อครีมไม่เหนียวและเกลี่ยง่าย ซึมเข้าผิวได้ดี ตัวนี้ใช้ได้ดีกับรอยแดงจากสิว
วิธีใช้: ทาบางๆ ที่รอยแผลเป็นประจำเช้าเย็น
ราคา: 234 บาท ขนาด 20 กรัม


อันดับ 7 ครีมที่เน้นคุณค่าวิตามินอี

     Medmaker Vitamin E Cream เห็นสาวๆ ใช้กันหลายคนอยู่ เวลาไปร้านขายยา คุณเภสัช ประจำร้านชอบแนะนำ แต่ Punni ยังไม่แน่ใจว่าจะดีจริงอ่ะป่าว
คุณสมบัติ: เนื้อครีมเข้มข้นสีขาววิตามินอีช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวหนังทดแทนส่วนที่สูญเสียไป ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว ทำให้รอยแผลเป็นจางลง ลดรอยเหี่ยวย่นบำรุงผิวให้นุ่มเนียน รักษาสภาพความชุ่มชื้นของผิวหนัง
วิธีใช้: ทาเป็นประจำเช้าเย็น ที่บริเวณแผลเป็น
ราคา: 85 บาท ขนาด 20 กรัม



อันดับ 8 ตัวยาดีทีเดียวเลยละ

     Retin-A Cream ตัวนี้เป็นยาลดสิวไปในตัวเลยละ
คุณสมบัติ: ตัวยาแรง เห็นผลเร็วคะ ใช้สำหรับรักษาสิว ใช้ทาผิวเพื่อบรรเทาความหยาบกร้าน รอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า และจุดด่างดำบนผิวหนัง และผิวที่ถูกทำลายโดยแสงแดด
วิธีใช้: ทาวันละครั้งก่อนนอน โดยทาบางๆทั่วใบหน้า รวมถึงบริเวณที่เป็นสิว เพียงเบาๆโดยใช้ผ้า,สำสี หรือนิ้วมือที่สะอาด ไม่ควรใช้มากไปเพราะไม่มีผลเพิ่มการรักษา

** ตัวนี้ ควรศึกษาก่อนใช้ยานะคะ


อันดับ 9 ครีมมะนาว

     Garnier Light  Cream  spf17/ pa++ ครีมที่เน้นความกระจ่างใส
คุณสมบัติ: ส่วนผสมของสารสกัดบริสุทธิ์จากมะนาว และนวัตกรรมสนสกัด ช่วยปรับผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น จุดด่างดำดูจางลง รูขุมขนกระชับ
สีผิวเนียนเรียบมั่นใจด้วยแถบวัดระดับสีผิวที่ให้คุณพิสูจน์ความเปลี่ยน ผิวกระจ่างใสขึ้น 2 ขั้น ภายใน 28 วัน
วิธีใช้: ทาเช้าเย็น เป็นประจำทุกวัน

อันดับ 10 ขวัญใจสาวน้อยสีชมพู

     KA White Spot Cream เนื้อครีมสีข๊าว ขาว
คุณสมบัติ: เนื้อครีมบาง(มากจนบางที่รู้สึกเหมือนไม่ได้ทา 5555) ซึมง่าย กลิ่นหอมด้วยคะ (Punni เคยใช้อยู่ แต่โดยส่วนตัวแล้ว Punni คิดว่า Ka จะเหมาะกับผิวสาวๆ วัยรุ่นที่ผิวยังบางๆ อ่อนๆ อยู่ แต่ถ้าสาวๆ ที่โตขึ้นมาหน่อยจะมีเรื่องริ้วรอยล่องลึก ก็ดูจะไม่ค่อยเหมาะแล้วนะคะ) 
วิธีใช้ : ทาบริเวณแผลเป็นเป็นประจำเช้าเย็น
ราคา: 65 บาท

Tuesday, August 21, 2012

10อันดับอาหารอันตราย ที่หลายๆคนชอบกิน


แฮมเบอร์เกอร์ทำมาจากเนื้อส่วนที่เหลือที่แย่ที่สุดจากโรงฆ่าสัตว์ เนื้อส่วนใดที่ขายเป็นส่วนของมันไม่ได้แล้วจะกองอยู่ที่พื้นและนำมาบดทำเป็นเบอร์เกอร์ รวมทั้งกีบ กระดูก จมูก หูและส่วนอื่นๆของมัน เพราะว่าเบอร์เกอร์ทั้งหมดทำมาจากสัตว์ จึงสามารถขึ้นป้ายว่า เนื้อวัวแท้ (Pure beef)แฮมเบอร์เกอร์ทั้งหมดจะใส่สารปรุงรส (MSG=Monosodium Glutamate) ทำให้ปวดศีรษะและเกิดอาการแพ้ MSG เป็นสารเคมีที่ห้องปฏิบัติการทดลองใช้ช่วยทำให้สัตว์อ้วนขึ้น และท้ายที่สุดก็ทำให้ท่านอ้วนขึ้นด้วย  อุตสาหกรรมปศุสัตว์ เป็นผู้ใช้ยาปฏิชีวนะมากที่สุดในโลก เพื่อใช้ในการหักล้างแบคทีเรียที่เป็นอันตรายในเนื้อ 

2.ฮอทด็อก 

ฮอทด็อกทำมาจากเนื้อส่วนที่เหลือที่แย่ที่สุดจากโรงฆ่าสัตว์ เนื้อส่วนใดที่ขายเป็นส่วนของมันไม่ได้แล้วจะกองอยู่ที่พื้น และนำมาบดทำเป็นเบอร์เกอร์ รวมทั้งกีบ กระดูก จมูก สันจมูก หู เล็บและส่วนอื่นๆของมัน เพราะว่าฮอทด็อกทั้งหมดทำมาจากสัตว์ จึงสามารถขึ้นป้ายว่า เนื้อวัวแท้ (
Pure beef) หรือ ทำจากไก่งวงแท้ 100% 

3.เฟรนช์ฟราย 

เป็นอาหารที่มี “ความเป็นพิษสูง”การทอดเฟร้นช์ฟราย จะทอดกันที่อุณหภูมิสูง ทำให้มีสารเคมีอะคริลิไมด์(
Acrylimides) ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่า เป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาท 

4.โอริโอ้ คุกกี้ 

ที่เด่นชัดมากก็คือ ส่วนของน้ำตาลมีอยู่สูงถึง 23 กรัมเลยทีเดียว
  
ช็อกโกเล็ตนั้นเป็นสารอาหารรายการสุดท้าย นั่นหมายความว่า มีช็อคโกเล็ตประกอบอยู่น้อยมาก น้ำตาลปริมาณสูง ทำให้ผิวหนังเ่ยวย่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น 

5.พิซซ่า 

พิซซ่าในเชิงทางการค้าจะประกอบไปด้วยอาหารที่มาจากการตัดแต่งทางพันธุ์กรรม 5 ชนิด 
-. เนยแท้ (
cheese) เพียง 10% เท่านั้น 

-. แป้งที่ผ่านการปรุงแต่งให้ขาวที่ได้ทำการฟอกสี ทำให้วิตามินและเกลือแร่ออกไปแล้ว แต่ได้ทำการเติมเกลือแร่สังเคราะห์ตามจำนวนโมเลกุลที่มันเคยมีอยู่เข้าไปใหม่ 

-ซอสมะเขือเทศ ทำด้วยสารที่คล้ายมะเขือเทศที่สร้างยาฆ่าแมลงของมันขึ้นมาได้เอง ในร่างกายของท่าน 

-แป้งสาลีที่นำมาใช้เป็นแป้งชนิดที่มีการตัดแต่งทางพันธุ์กรรม 

-มีน้ำมันฝ้ายประกอบอยู่ด้วย ฝ้ายไม่ได้จัดเป็นพืชพวกอาหาร มันผ่านการสเปรย์ด้วยยาฆ่าแมลงที่ชาวไร่ใช้ 

6.น้ำอัดลม 

สารตัวสำคัญที่มีอยู่ในโค้กก็คือกรดกำมะถัน (
Phosphoric acid) ในด้านความเป็นกรดด่าง มันมีความเป็นกรดอยู่สูงมากพอที่จะละลายตะปูได้ภายใน 4 วันกรดที่สะสมอยู่ในร่างกาย ทำให้ยากที่จะทำให้น้ำหนักตัวลดลงได้ 

7.ชิ้นไก่เนื้อนุ่มไม่มีกระดูก 

ทำมาจากชิ้นส่วนของไก่ที่ไม่ใช้แล้ว น้อยมากที่จะทำมาจากเนื้อขาวจริงๆการรับประทานต่อครั้งโดยทั่วไป จะให้พลังง??น 340 แคลอรี่ 50% เป็นไขมันมีแป้งขนมปังผสมอยู่มาก จึงมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง มีการเติมสารปรุงรส (MSG=Monosodium Glutamate) ทำให้ปวดศีรษะ 

8.ไอศครีม 

มีไขมันอยู่สูงมาก (ขนาดปกติ 4 ออนซ์) มีไขมันเกินกว่า 50% ของไขมันที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวันมีคาร์โบไฮเดรตอยู่มาก เกือบ 40% ของคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวันมีน้ำตาลอยู่มาก ทำให้มีความกระหายน้ำตาลมากยิ่งขึ้น เป็นสาเหตุทำให้ผิวหนังเ่ยวย่น 

9.โดนัท 

โดยเฉลี่ยแล้ว จะให้พลังงานประมาณ 300 แคลอรี่ ในโดนัทหนึ่งชิ้นมีแป้งคาร์โบไฮเดรตอยู่มากกว่า 50% ของที่แนะนำให้บริโภคต่อครั้งต่อวัน
  
มีเกลือโซเดียมอยู่สูงมาก ทำให้ร่างกายขาดน้ำได้ 

10.โปเตโต้ชิพ อาหารขบเคี้ยวว ว 

การทอดโปเตโต้ชิพจะทอดกันที่อุณหภูมิสูงทำให้มีสารเคมีอะคริลิไมด์ (
Acrylimides) ออกมา ซึ่งรู้จักกันดีว่า เป็นสารก่อโรคมะเร็งและทำลายประสาท 

อยากสวยห้ามลืม 10 ข้อนี้ ทำได้ใกล้ๆ ตัว

อยากสวยห้ามลืม 10 ข้อนี้ ทำได้ใกล้ๆ ตัว 

     ใครอยากสวยยกมือขึ้น \\^0^// Punni ขอยกสองมือเลยคะ ถ้ามีมือเยอะกว่านี้ก็จะยกให้ครบทุกมือ เพราะว่าอยากสวยค๊า >//<5555 แหม!! ร้อยทั้งร้อยผู้หญิงทุกคนก็อยากสวยกันทั้งนั้นละค๊า เรามาเริ่มปฏิวัติความโทรม T^T ด้วยวิธีการง่ายๆ ใกล้ๆ ตัวเราก่อนดีไม๊คะ ^^ บางสิ่งก็เป็นข้อที่สาวๆ รู้กันอยู่แล้ว แต่บางทีก็ลืมไป ไม่ทำไม่ปฏิบัติให้สม่ำเสมอ แล้วแบบนี้จะสวยได้ยังไงละค๊า อย่าลืมนะคะว่าไม่มีหรอกคะผู้หญิงที่ไม่สวย มีแต่ผู้หญิงที่ขี้เกียจเท่านั้น (ฮ่า T^T นี่มันแทงใจดำชัดชัด) มาเริ่มขยันเพื่ออัพดีกรี ความสวยกันเถอะคะสาวๆ เริ่มจาก 10 กฏเหล็กใกล้ๆ ตัวที่สาวๆ อย่างเราต้องปฏิบัติ ให้เป็นประจำทุกวันสม่ำเสมอนะค๊า ^0^ สู้! สู้!
1 Drinking Water : ดื่มน้ำ(เปล่า) กันเถอะ 

    สิ่งแรกที่ควรทำเมื่อสาวๆ ตื่นลืมตาขึ้นมา ควรต้องดื่มน้ำเปล่าบริสุทธิ์อย่างน้อย 2 แก้ว (เห็นไม๊ละคะ ว่ามันเป็นเรื่องใกล้ๆ ตัวที่เรารู้ๆ กันอยู่แล้ว แต่ชอบลืม หรือไม่ก็ขี้เกียจที่จะทำ) เพราะน้ำจะช่วยล้างสิ่งสกปรก และของเสียตกค้างภายใน ร่างกายให้ออกไป ผิวพรรณของเราจะดูสวยใสมากขึ้นค๊า ^^
2 breakfast : ต้องทานอาหารเช้า ทุกวัน

   มื้อเช้าเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เลยละคะสาวๆ นอกจากจะ ทำให้สุขภาพดีแล้ว อาหารเช้ายังสามารถช่วยรักษา ความสมดุล ของน้ำหนักตัวเราให้คงที่ด้วยนะคะ มีผลวิจัยออกมาว่าคนที่ทานมื้อเช้าเป็นประจำมีเปอร์เซนต์ อ้วนน้อยกว่าคนที่ไม่ทานมื้อเช้า wow!!!! นอกจากนี้ อาหารเช้ายังช่วยให้สมองปลอดโปร่งอีกต่างหาก ^^
3 Fruit Lover : เลือกมื้อเช้าเป็นผลไม้บ้าง (ดีนะ)
     มีผัก และผลไม้ติดตู้เย็นที่บ้านไว้บ้าง ก็ดีนะจ๊ะสาวๆ อย่างเช่น ส้ม แอปเปิ้ล แครอท ประเภทที่คิดว่ากินง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก สำหรับมื้อเช้าหยิบจับผลไม้มาบีบๆ หั่นๆ ลงในโยเกิร์ตสักถ้วย นอกจากจะอิ่มอร่อยสุขภาพดีแล้ว ยังบำรุงผิวและสร้างความสดชื่นให้กับเราอีกด้วย
4 Walk Walk Walk: เดิน ชิล ชิล บ้าง จะเป็นไร 

    ในวันหยุดสุดสัปดาห์ หรือวันที่สาวๆ มีเรียนสาย ^^ ลองตื่นเช้าๆ ออกมาเดิน หรือวิ่งเหยาะๆ ออกกำลังกายบ้าง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง นอกจากจะได้สูดอากาศอันสดชื่น ของออกซิเจนยามเช้าแล้ว การออกกำลังกายเบาๆ แบบนี้ ยังช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือด ดีขึ้นด้วย สาวๆ จะมีแก้มสีชมพู แบบสุขภาพดีด้วยน๊า >//<
5 Sweet Lotion : ดูแลผิวให้สวยตลอดวัน 

   ทุกครั้งที่เราเปลี่ยนแปลงสถานที่ เช่น จากบ้านไปโรงเรียน เลิกเรียนไปเดินเล่นในห้างสรรพสินค้ากับเพื่อนต่อ ในทุกๆ สถานที่อุณหภูมิไม่เท่ากัน ซึ่งเจ้าอุณหภูมิ และอากาศนี่ละ ที่มีผลกระทบโดยตรง กับผิวพรรณของเรา การเลือกใช้ บอดี้โลชั่นให้เหมาะกับสภาพอากาศ แต่ละช่วงก็เป็น สิ่งสำคัญ อย่างหน้าร้อนรูขุมขนจะเปิดกว้าง ควรเลือกใช้ บอดี้โลชั่นเนื้อบางเบา ส่วนหน้าหนาวต้องการความชุ่มชื่น เป็นพิเศษ บอดี้โลชั่นควรมีส่วนผสมของ เอสเซนเชียลออยล์ หรือ เชียบัตเตอร์ ค่ะ นอกจากโลชั่นจะช่วยให้ผิวเรา ไม่ดูแห้งเป็นขุยแล้ว กลิ่นหอมๆ ของโลชั่นยังเป็นตัวช่วย บำบัดความเครียดให้กับสาวๆ อีกด้วยนะคะ ^^
6 Shower Time : อาบน้ำ ^^ ช่วงเวลา แห่งความสุข

   เวลาอาบน้ำแบบนี้ละ ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ของสาวๆ อย่างเราเลยก็ว่าได้ ^^ จริงๆ แล้ว Punni อยากแนะนำสาวๆ ว่า “อย่าอาบน้ำ ด้วยน้ำอุ่นเลยนะคะ” แต่ก็คงมีสาวๆ หลายคนทำหน้าอี๋ T^T แบบนี้อนุโลมให้ว่า ในการอาบน้ำ 1 ครั้ง ห้ามอาบน้ำอุ่นเกิน 10 นาที เพราะน้ำอุ่น ทำให้ผิวเราแห้งได้ง่ายมากเลยนะคะ ขณะที่เราอาบน้ำ ก็ควรหาวิธีทางขัดผิวไปด้วยก็ดีนะคะ นอกจากจะช่วยขจัด สิ่งสกปรก และกำจัดเซลล์ผิว ที่ตายออกไปแล้ว ยังเป็นการ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดอีกด้วย
7 Don’t Worry be Happy : ยิ้มหวานๆ ทำให้เราสวยขึ้น

   ยิ้มแย้มเสมอ ห้าวเครียดนะค๊า ^_______^ ความเครียด จะทำให้สาวๆ อย่างเราๆ แก่เร็ว เพราะความเครียด ทำให้ผิวเสียคะ เวลาเกิดความเครียด กล้ามเนื้อบนใบหน้าจะรัดตัวมากกว่าปกติ นอกจาก ผิวจะย่น เกิดริ้วรอยและความหมองคล้ำแล้ว สาวๆ จะรู้สึกหดหู่อีกต่างหาก เพราะฉะนั้นอย่าเครียดคะ ยิ้มเข้าไว้แล้วเราจะสวยขึ้นนน ^_____^ Ha Ha
8 Very Sunshine : หลีกเลี่ยงแดด แรงๆ กันเถอะ

     บรรดาแดดอ่อนๆ ยามเช้า ก็ดูสุขภาพดีอยู่หรอกคะ แต่พอเที่ยง พอบ่ายเนี๊ย Punni เห็นรัศมีของไอแดด แล้วอยากจะกรีดร้อง T^T มันช่างแสบสรรซะเหลือเกิน เดินออกที่โล่งสัก 10 นาที หันมามองตัวเอง “นี่มันนิโกร หรือแม่ข้าวนอกนาที่ไหนเนี๊ย >///< แดดเผาผิวใสๆ ซะเกรียมไปหมด” เพราะฉะนั้นเรามาหลีกเลี่ยงแดด
ช่วง 9 โมงเช้า ถึงบ่าย 3 กันเถอะคะ พกร่มไว้ไม่
เสียหายคะ บางทีมองผ่านๆ คิดว่าเราเป็นสาวญี่ปุ่น อีกต่างหาก 555555 (สาวยุ่นชอบกางร่มและใส่หมวก เป็นชีวิต จิตใจคะ) ช่วง 9 โมงเช้าถึงบ่าย 3 เป็นช่วงเวลา ที่ปริมาณ รังสียูวีเข้มข้น และเป็นอันตรายต่อผิวสูงสุดคะ หลีกเลี่ยง เถอะนะสาวๆ
9 Milk Time : ดื่มนมก่อนนอนกันเถอะ

    มาดื่มนม ก่อนนอน กันเถอะ แล้วเราจะสวยขึ้น และนอนหลับสบายตลอดทั้งคืน เพราะในนม มีสารอาหาร มากมายที่จะช่วยบำรุงและเสริมสร้างสิ่งดีๆ ให้กับเรา โดยเฉพาะวิตามินบีรวม ที่จะทำให้สาวๆ สดใสในเช้าวันรุ่งขึ้น >///<
10 Sleeping : นอนหลับ พักผ่อนให้เพียงพอ

   Step สุดท้ายของวัน คือการนอนหลับ (_ _ ZZzz) หลับแบบสนิทตลอดคืน และเพียงพอสำหรับทุกวัน เพื่อให้ร่างกาย และผิวของเราได้พักผ่อนอย่างเต็มที ด้วยเหมือนกัน การพักผ่อนให้เพียงพอ นอกจากจะ ทำให้เรา สดชื่นแจ่มใสแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ดูมีน้ำมีนวล อีกต่างหาก จริงๆ แล้วสาวๆ ควรนอนหลับ พักผ่อนให้ได้ อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ นะคะ
    นี่ละคะ 10 ข้อง่ายๆ ใกล้ๆ ตัวเรา ที่สาวๆ คนไหนอยากสวย ก็ต้องห้ามลืม และที่สำคัญ ต้องทำเป็นประจำทุกวัน สาวๆ คนไหนอยากได้ไอเดียดีๆ ในการดูแลสุขภาพ หรือทริ๊ปเพิ่มความสวย ทั้งหลาย ก็อย่าลืมแวะมาอัพเดททุกเรื่องราวดีๆ ได้ในคอลัมน์ Beauty Story www.dek-d.com/nugirl/ healt /beauty_story นะคะ แต่ถ้าสาวๆ คนไหนอยากหาวิธีการออกกำลังกาย แบบง่ายๆ ก็แวะไปหาไอเดียดีๆ ได้ที่คอลัมน์ Move It Up www.dek-d.com/nugirl/ health/move_it_up
ได้เลยนะจ๊ะ ตอนนี้ Punni ต้องบ๊าย บาย แล้วละค๊า ^^