Wednesday, August 31, 2011

มีตัวอย่างเมนูอาหารวันละไม่เกิน 1000 แคลอรี่

สำหรับคนที่ลดความอ้วนแบบจำกัดแคล วันนี้ขอเสนอคนที่จำกัดแค่ 1000 แคลก่อนนะ บางคนอาจจะจำกัดที่ 1200-1500 ก็แล้วแต่ปัจจัยต่างๆจะนำเสนอต่อไป

อยากบอกว่าคอนเซปเราเหมือนเดิม คือทานแคลลอรี่ต่ำไม่ได้แปลว่าทานไม่อิ่ม แต่คือทานอาหารที่แม้ปริมาณจะน้อยแต่คุณค่าอาหารไม่น้อยตาม ที่สำคัญอยู่ท้อง หรือที่เรียกว่าอิ่มพอดี

บางคนอาจจะนึกไม่ค่อยออกจะกินอะไรยังไงดีให้อยู่ในโควต้า 1000 แคลต่อวัน

บาง คนเริ่มคล่องก็อาจจะคิดเมนู วางแผนล่วงหน้าของตัวเอง ส่วนตัวเราใช้วิธีว่าอยากกินอะไรจะวางแผนล่วงหน้า ปรับลดปริมาณ หรือ แบ่ง แลก ทอนแคลอรี่ให้มันอยู่ในโควต้า ยิ่งเราชอบขนมต้องมีขนมในนั้น

แต่สำหรับมือใหม่อันนี้อาจจะพอเป็นไอเดียนะ

เราบอกชื่อเมนู
สนใจเมนูไหนบอกมาได้ เราจะบอกส่วนประกอบ ปริมาณ และวิธีทำให้ค่ะ ไม่ใช่อะไรมันพิมพ์เยอะอ่าค่ะ อยากรู้เมนูไหนบอกมาได้เลยนะคะ


เมนูชุดที่ 1

มื้อเช้า (301 k.)
   - ข้าวผัดไก่
   - แกงจืดผักกาดขาวปลี
   - ส้มเขียวหวาน

มื้อเที่ยง (322 k.)
   - ขนมจีนน้ำยาป่า
   - สับปะรด

มื้อเย็น (362 k.)
    - แกงจืดกวางตุ้ง
   - น้ำพริกกะปิ
   -  ปลาช่อนย่าง
   - มะละกอสุก 


เมนูชุดที่ 2

มื้อเช้า (369 k.)
- ไข่ดาวน้ำ แตงกวา มะเขือเทศ
-  ขนมปังปิ้ง
-  แยม
- ส้มเขียวหวาน

มื้อเที่ยง ( 372 k.)
- บะช่อหมูกับตำลึง
- ไก่ผัดขิง
- ชมพู่

มื้อเย็น ( 255 k.)
- ยำเนื้อย่าง
- นมขาดมันเนย
- สับปะรด  


เมนูชุดที่ 3

มื้อเช้า (206 k.)
- ข้าว หรือ ขนมปัง
- ไข่ดาวน้ำ
- น้ำส้มคั้น

มื้อเที่ยง( 306 k.)
- แซนวิชแฮม
- นมขาดมันเนย
- ส้มเขียวหวาน

มื้อเย็น(498 k.)
- ตับไก่อบกับเห็ด
-สลัดผักสด
- สับปะรด
- นมขาดมันเนย 


เมนูชุดที่ 4

มื้อเช้า(204 k.)
- สตอเบอรี่สด 100 กรัม
- ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
- นมขาดมันเนย 1/2 ถ้วย
- น้ำตาล 1 ช้อนชาไว้ใส่กาแฟหรือชา

มื้อเที่ยง(360 k.)
- เนื้อเบอร์เกอร์ 1 ก้อน
- ขนมปังเบอร์เกิร์ 1/2 ก้อน
- สลัดผัดสด
- นมขาดมันเนย 1/2 ถ้วย

มื้อเย็น ( 448 k.)
-สลัดกุ้งเนยแข็ง
- นมขาดมันเนย 3/4 ถ้วย
- ส้มผลกลาง 1 ลูก 


เมนูชุดที่ 5

มื้อเช้า(222 k.)
- น้ำองุ่นสด 1/2 ถ้วย
- ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
- ไข่ดาวน้ำหรือไข่ต้ม 1 ฟอง
- ชาหรือกาแฟใส่นมขาดมันเนยไม่เกิน 3 ช้อนคาว น้ำตาลไม่เกิน 1 ช้อนชา

มื้อเที่ยง(275 k.)
- กุ้งอบ 75 กรัม
- มะเขือเทศ 2 ผล
- ผักกาดหอมตามต้องการ
- นมขาดมันเนย 3/4 ถ้วย
- ชา หรือ กาแฟไม่ใส่น้ำตาล

มื้อเย็น (516 k.)
- แฮม 1 แผ่น
- มันฝรั่งอบ 1 หัวเล็ก
- สลัดผลไม้(ส้ม แตงโม แคนตาลูป)
- นมขาดมันเนย 1/2 ถ้วย 

 เมนูชุดที่ 6

มื้อเช้า (202 k.)
- น้ำมะเขือเทศ 1/2 ถ้วย
- ซีเรียล 1/2 ถ้วย
- ขนมปังปิ้ง 1 แผ่น
- ชาหรือกาแฟใส่ น้ำตาลไม่เกิน 1 ช้อนชา นมขาดมันเนยไม่เกิน 3 ช้อนคาว

มื้อเที่ยง( 270 k.)
- ซุปหัวหอม
- สลัดทูน่า
- แครกเกอร์ 2 แผ่น
- นมขาดมันเนย 1/2 ถ้วย

มื้อเย็น(522 k.)
- หมูสันในอบหน่อไม้ฝรั่ง หมู 75 กรัม
- สลัดสับปะรดราด้วยนมเปรี้ยว
- นมขาดมันเนย1 3/4
- ชาหรือกาแฟไม่ใส่น้ำตาล

*หมายเหตุ เมนูเป็นเพียงตัวอย่างไว้เป็นแนวทาง เราสามารถปรับเปลี่ยนทั้งปริมาณ แลกทอน ทดแทนโควต้าแคลอรี่ได้ แล้วแต่เราจะจัดสรรอย่างไร เพราะในชีวิตจริงเราอาจจะชอบทานอาหารอย่างอื่น หรือหลายคนชอบพวกขนม ของว่างต่างๆ  ที่จริงอาหารหลายอย่างก็มีให้เลือกหลายคุณภาพ วัตถุดิบแคลอรี่ต่ำหรือไขมันน้อยก็มีให้เลือกมากขึ้น ถ้าเรารู้จักเอามาประยุกต์ บางทีแต่ละมื้อคุณอาจทานได้มากกว่านี้ และไม่จำเป็นต้องเป๊ะ 1000 แคลอรี่จะมีเศษนิดเศษหน่อยไม่เป็นไร

ใน แต่ละอาทิตย์เราอาจกำหนดวันหลุดของเราไว้ทานของที่อยากทาน แต่พยามกำหนดว่าวันหลุดจะทานไม่เกินกี่แคลอรี่ สำหรับเรากำหนดที่ 1500-1700 แคล

เดือนนึงจะมีวันหลุดใหญ่กินไม่อั้นได้ 1 วัน

เพื่อที่ ให้เรามีกำลังใจ ไม่อด ลดอยาก จะได้ทำได้เรื่อยๆที่สำคัญการที่เราปล่อยหลุดบ้างร่างกายจะได้สารอาหารไปชด เชยที่ขาดไป กินเกินดีกว่ากินขาด ลดช้าดีกว่าลดเร็วไปนะคะ!


20 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้

 วันนี้เราจะมาพบกับเรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้

1.ว่ากันว่านกกระจอกเทศมีดวงตาใหญ่กว่าสมองซะอีก

2.หลายคยคิดว่าซอสมะเขือเทศมีเฉพาะสีแดงแต่ที่อเมริกามีซอสมะเขือเทศสีเขียวด้วยนะ

3.กล้ามเนื้อที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดของเราคือ...ลิ้น

4.สมองของเราไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดแต่ที่เรารู้สึกปวดหัวเป็นเพราะกล้ามเนื้อบริเวณศรีษะตึงตัว

5.เลือดข้นกว่าน้ำประมาณ 6 เท่า

6.เราใช้เวลาเพียง1/40วินาทีในการกระพริบตา 1 ครั้ง

7.ปลาหมึกเป็นสัตว์ที่มีเชาน์ปัญญามากที่สุดในบรรดาสัตว์ลำตัวนิ่ม

8.เพลง ที่มีคนร้องมากที่สุดในโลกคือเพลง Happy bithday to you ที่สองพี่น้อง มิลเดรด เจ.ฮิลล์ และแพตตี สมิท ฮิลล์ แต่ขึ้นในปี ค.ศ.1935

9.สายตาของเหยี่ยวดีกว่าคนถึง 8 เท่า

10.ถ้าอั้นตดไว้ 6 ปี 9 เดือนจะมีความรุนแรงเท่ากับพลังของระเบิดนิวเคลียร์เลยทีเดียว

11.มีชาวอังกฤษคนหนึ่งพัฒนากล้องที่สามารถถ่ายได้ 600 ล้านภาพต่อ 1 วินาที

12.การจามมีความเร็วถึง160 กม./ชม.ซึ่งเร็วกว่าลูกเบสบอลที่ถูกขว้างออกไปซะอีก นอกจากนี้เราจะไม่สามารถลืมตาขณะจามได้

13.เกือบทุกภาษาในโลกจะออกเสียงคำว่าแม่ด้วยตัว"ม"

14.ปิ กัสโซผู้ถูกขนานนามว่าเป็น"ศิลปินอัจฉริยะ"แห่งศตวรรษที่ 20 เขามีผลงานมากกว่า 40,000 ชิ้น เฉลี่ยแล้วตลอดช่วงชีวิต 60 ปี เขาผลิตผลงานวันละ 2 ชิ้น

15.ชาวเอสกิโมไม่มีคำพูดที่มีความหมายว่า "สวัสดี" และ "ลาก่อน"

16.พลังงานที่เราใช้ตอนนอนเยอะกว่าพลังงานที่ใช้ดู TV ซะอีก

17.สีของรถที่ปลอดภัยที่สุดคือสีเหลืองเพราะเมื่อสีเหลืองเข้ามาในดวงตาเราจอตาจะจับจุดโฟกัสได้ชัดเจนที่สุด

18.ถ้าอยากให้น้ำอัดลมที่เปิดแล้วมีความซ่าอยู่ได้นาน ให้ปิดฝาขวดแน่นๆและตั้งกลับหัว

19.เมื่อน้ำหมึกหรือรอยปากกาติดเสื้อให้ถูด้วยน้ำยาขจัดคราบจะซักออกง่ายขึ้น

20.นมที่หมดอายุจะมีน้ำซึมออกมาเมื่อเราแกะกล่องจะเห็นว่านมเสียแล้ว

ลายเสื้อ

























Monday, August 29, 2011

KiRaRi's Howto: My Graduation แต่งหน้าใ้ห้สวยใสในวันรับปริญญา

หลังจากมีน้องๆหลายคนรีเควสให้ลง How to แต่งหน้าแบบเบสิก
รวมถึงแต่งหน้ารับปริญญา ครั้งนี้เลยได้นำฮาวทูแต่งหน้าแนวใสๆ
ในวันรับปริญญา มาฝากเพื่อนๆกันค่ะ

การแต่งหน้ารับปริญญา อาจแต่งได้หลากหลาย
ทั้งเข้ม และแนวใสๆ สำหรับเราเอง ชอบแนวใสๆมากกว่า ได้ลุคนักศึกษาดี
บางคนชอบแต่งเข้มๆ เวลาถ่ายรูปออกมาสวย แต่ระวังอย่าให้เข้มเกิน
อย่าง smokey eyes ตาดำปื้ดเนี่ย เลี่ยงไว้ค่ะ
เก็บไว้เปรี้ยวในวันเที่ยวดีกว่า งานพิธีการเช่นนี้ ต้องแต่งแบบสุภาพๆ
โทนสีที่ใช้ก็ควรเป็น Earth tone หรือชมพูอ่อน ตาิวิ้งระยับเนี่ย
ห้ามเชียวนะ บางสถาบันเคยให้นศ.ลบหน้ามาแล้ว

สำหรับผม...อย่างในฮาวทูเนี่ยผิดระเบียบแน่นอนจ้ะ
ในวันรับปริญญาควรทำผมสีเข้ม เช่นน้ำตาลเข้มหรือดำ
บางคนย้อมสีทองมาแล้ว ก็ใช้วิธีเคลือบสี หรือย้อมชั่วคราวก็ได้ค่ะ
สระไม่กี่ทีก็หลุด

เกริ่นมามากแล้ว ไปชมฮาวทู step by step
การแต่งหน้าแนวใสๆ ในวันรับปริญญากันดีกว่า











Image Hosted by ImageShack.us



ย้อนกลับไปดูรูปงานรับปริญญาเมื่อ 3 ปีก่อน ยังผมยาวอยู่เลย
ในรูปเป็นรูปวันซ้อมใหญ่ค่ะ วันจริงเราทำผมดำสนิทเลย



KiRaRi’s How to : Natural Look...แต่งอย่างไรไม่ให้ดูโบ๊ะ



สวัสดีจ้าสาวๆ หลังจากที่มีฮาวทูสอนแต่งหน้าหลายๆลุค
ครั้งนี้มี Request มาให้สอนแต่งแบบใสๆ ไม่เข้มมาก ไม่อยากดูโบ๊ะ
ในลุคนี้จุดสำคัญจะอยู่ที่ Base make up ค่ะ
เราจะเน้นจุดนี้มากกว่า point make up เหมือนครั้งก่อนๆที่ผ่านมา

ไม่รอช้า ไปชมกันเลยดีกว่า...



Let’s start….



ก่อนจะแต่งหน้าก็ต้องบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นก่อนนะคะ ไม่งั้นเมคอัพหลุดไว
แถมหน้าเหี่ยวง่ายด้วยน้า ตัวกันแดด Peach miki เพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ในกรุ
ตอนนี้ใช้ทุกวัน เยี่ยมมากค่ะ ไม่มันเลย
หลังจากที่ลงสกินแคร์แล้วก็พักหน้าแว้บ...ให้มันซึมลงในผิวก่อน




สำหรับคนที่มีรอยสิว แป้งแนะนำตัวนี้เลย Eucerin cover stick คล้ายคอนซีลเลอร์ค่ะ
แต่จะมีส่วนผสมของตัวที่ทำให้สิวแห้งไวไม่อักเสบ แป้งใช้หมดไปสามแท่งแล้ว
ปกปิดได้แต่ไม่เนียนมากค่ะ ดีที่ไม่อุดตันไม่ทำให้สิวอักเสบ
ตัวนี้ลงบริเวณสิวได้โดยตรงค่ะ




หลังจากนั้นก็ลงบีบีครีมกันค่ะ ลุคใสๆไม่ต้องพึ่งรองพื้นดีกว่า บีบีเบาบางดีค่ะ
(Items: ETUDE Precious Mineral BB cream, skinfood foundation brush,
Lunasol sponge)

1. การลงบีบีหรือรองพื้นให้แตะครีมบนใบหน้าเป็น 4 จุด คือหน้าผาก แก้มทั้งสองและคาง
2. หลังจากนั้นก็ใช้แปรงเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า
3. ปิดท้ายด้วยการใช้ฟองน้ำกดซับครีมส่วนเกิน จะทำให้ทาบีบีหรือรองพื้นได้เนียนกริบ ลดการเป็นคราบได้มากค่ะ




หลังจากนั้นก็ปกปิดร่องรอยด้วย concealer ค่ะ
(Items : MAKE UP FOR EVER , Luvshuca concealer, The body shop brush)

1. การปกปิดรอยแดงรอยดำจริงๆใช้คอนซีลเลอร์สีเขียวหรือม่วงก็ได้ค่ะ
แต่ครั้งนี้ขอแบบเนียนหน่อยเลยใช้สีเบจเข้มจากพาเลท (1) ลงก่อน
2. หลังจากนั้นก็ใช้คอนซีลเลอร์สีเบจอ่อนๆ (2) กลบทับอีกที
ใช้นิ้วค่อยๆเกลี่ยก็ได้ค่ะ คราวนี้ก็เนียนแระ
3. ใช้ไอเท็ม (2) กลบแพนด้าโดยการใช้นิ้วนางแตะที่ตัวคอนซีลเลอร์แล้ว
นำมาแตะๆที่ตาเบาๆค่ะ ห้ามปาดไปมานะคะจะเป็นคราบง่าย



หลังจากนั้นก็ตบด้วยแป้งฝุ่น Lynx ค่ะ ได้ลุคใสๆ เราใช้พัพของ Beauty Credit ใหญ่สะใจดี
ทาหน้าแล้วทาคอด้วยนะคะ จะได้ดูไม่วอก


ต่อจากนั้นก็มาเขียนคิ้วกันต่อ
(Items: canmake eyebrow liquid No.2, Shiseido Integrate eyebrow and
Noseshadow, PALTY eyebrow mascara, The body shop brush)

1. วาดโครงคิ้วด้วยเมจิกจากแคนเมค
2. ใช้แปรงแตะๆที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นในตลับ วาดด้วยสีอ่อนก่อน
3. ลงสีเข้มบริเวณหางคิ้วและปัดมาสคาร่าคิ้วทับ

ต่อไปมาที่ขั้นตอนแต่งตากันบ้าง คราวนี้แต่งแบบบางๆใสๆนะคะ





ก่อนอื่นมาลง eyebase กันก่อน เราชอบมากตัวนี้… Lunasol eyelid base
จะช่วยให้อายแชโดว์ติดทนและควบคุมไม่ให้หนังตามันง่าย




ต่อกันที่การลงสี eyeshadow ไอเท็มครั้งนี้เป็น JILL STUART ค่ะ
1. ใช้สีขาววิ้ง (1) ลงทั่วเปลือกตา
2. ใช้สีชมพู (2) ลงทับอีกชั้นบริเวณเปลือกตา สีนี้จะช่วยให้ตาดูกระจ่างใสค่ะ
3. เพิ่มมิติให้ดวงตาอีกนิดด้วยสีน้ำตาลอ่อน (3) ลงตามส่วนพับของเปลือกตา
4. ใช้สีน้ำตาลเข้ม (4) ลงตามขอบตาทั้งบนและล่าง
5. ปิดท้ายด้วยการลงสีชมพูอ่อนๆ (2) บริเวณหัวตาค่ะ



หลังจากนั่นก็กรีดตาค่ะ เราใช้แบบดินสอนะคะ จะดู soft กว่า
(Items : SANA super black eyeliner, Joli et Joli et eyeliner)
1. กรีดขอบตาบนและขอบตาล่าง ซึ่งขอบตาล่างจะกรีดแค่หางตามาถึงกลางตาค่ะ
2. ใช้คอตตอนบัตค่อยๆถูให้ไลน์เนอร์ที่กรีดไว้ฟุ้งๆ
3. ปิดท้ายด้วยการกรีดขอบตาบนด้วยไลน์เนอร์แบบเมจิกไม่ต้องตวัดหางนะคะ



หลังจากไลน์เนอร์แห้งแล้วก็ดัดขนตาและปัดขนตาค่ะ รอบนี้เราปัดสองที เพื่อให้ดูธรรมชาติค่ะ
(Items: Anna sui lash curler, L’Oreal ultra volume mascara)



ต่อกันที่การเฉดดิ้งและไฮไลท์ดั้งค่ะ ไอเท็มประจำตัวเลย…CAZANNE nose shading & highlight
1. ใช้ tip แตะสีเบจน้ำตาลค่อยๆทาบริเวณข้างสันจมูกทั้งสองด้าน
2. ใช้แปรงแตะสีขาวมุกเบาๆ แล้วปัดบริเวณสันจมูกค่ะ
3. ใช้แปรงแตะสีขาวอีกเช่นกันปัดบริเวณใต้ตา พรางรอยแพนด้าที่หนักๆค่ะ



ต่อไปก็มาปัดแก้มกันค่ะ เราใช้ JILL STUART mix blush มาพร้อมแปรงน่ารักมากๆ
1. ใช้แปรงปัดวนผสมสี 2 + 3 + 4 แล้วปัดไปตามโหนกแก้ม
2. ใช้แปรงแตะสี (1) แล้วปัดทับอีกชั้น หน้าจะดูวาวๆ ใสๆค่ะ



ขั้นตอนสุดท้ายแล้วคือการทาลิป ก่อนจะทาลิปต้องบำรุงก่อนนะคะ
ไม่งั้นสีลิปไม่สวย ตกร่องแถมไม่ติดทนนะคะ
(Items: Peach miki lips treatment, Lavshuca dramatic memory rouge PK3,
Dior Lip gloss No.267)

1. บำรุงปากด้วยลิปทรีทเม้นท์ค่ะ
2. ทาลิปสีชมพูอ่อนๆ จะใช้แปรงก็ได้นะคะ แต่ลิปรุ่นนี้แท่งมันเรียวทาง่ายอยู่แล้ว
เลยทาจากแท่งเลย
3. ใช้ทิชชู่ซับลิปที่ทาออกเบาๆ ทำเช่นนี้จะช่วยให้ในการทาลิปอีกชั้นติดทนค่ะ
4. ทาลิปสีเดิมอีกชั้นบางๆ
5. ปิดท้ายด้วยการทากลอสบริเวณกึ่งกลางริมฝีปาก แล้วเม้มปากหนึ่งครั้งเป็นอันเสร็จ

เสร็จแล้วจ้าาา... ลุคบางเบา ใสๆ แต่งได้ทุกวันค่ะ





หากเพื่อนๆมีลุคไหนที่อยากให้ทำฮาวทู request กันมาได้นะคะ
แล้วพบกันใหม่ค่ะ บะบายย

HT: London Gal ~smoke gets in your eyes~

ช่วงอาทิตย์นี้เกิดอาการขยันทำฮาวทูเพราะเริ่มมีเวลาว่าง พักจากการเป็นแม่ค้า
กลับมารอบนี้อยากลองแต่งแนวสโมคกี้เล็กๆ ให้ได้ลุค Cool cool ดูบ้าง
วิธีการแต่งครั้งนี้จะเน้นดวงตากลมโต เข้มเล้กน้อย ส่วนปากและแก้ม
จะใช้โทนสีไม่จัด เพื่อให้ดวงตาดูโดดเด่นที่สุดค่ะ

ทำไมต้อง London ล่ะ ??? ตอนที่ทำฮาวทูนี้ขึ้นมาก็ยังไม่มีชื่อหรอก
แต่พอทำเสร็จ Process รุปดูแล้ว เอ...อยู่ดีดี บรรยากาศสาวลอนดอนก็ผุดขึ้นมา
ดูเรียบ แต่หรู พรีอพ เสื้อผ้าก็ดูเป็นสาวเมืองหนาวดี เลยตั้งชื่อนี้แล้วกัน


เกริ่นมานาน ไปชมกันดีกว่าค่ะ

Image Hosted by ImageShack.us

ในครั้งนี้เราจะข้ามขั้นตอน base make up นะคะ เพราะทำเหมือนฮาวทูก่อนๆ
(ลงครีมบำรุง + กันแดด Peach miki + Eucerin cover stick ปิดและแต้มสิว +
ลง ETUDE Precious mineral BB cream + ปิดด้วยคอนซีลเลอร์ lavshuca)



Image Hosted by ImageShack.us
หลังจากลง base make up เสร็จก็ตบด้วยแป้งฝุ่น beauty credit สุดรักเช่นเคย



Image Hosted by ImageShack.us
ลุคนี้เราต้องการให้หน้าดูเนียนสว่าง เพื่อดึงจุดเด่นดวงตาออกมา
เลยใช้แป้งพัพ Beautilicious Puff up Souffle แตะและกดลงบนใบหน้าเบาๆ
แป้งตัวนี้เราแนะนำสำหรับคนหน้ามันง่ายค่ะ คุมมันได้ดีเยี่ยมเลยล่ะ
แต่ก็ไม่ถึงกับทำให้หน้าเราแห้ง



Image Hosted by ImageShack.us
หลังจากหน้าเนียนแล้ว ก็มาแต่งคิ้วกันต่อ
ในลุคนี้เราตั้งใจจะเปลี่ยนเป็นผมสีเข้ม ดังนั้นคิ้วจะปรับสีให้เข้มขึ้นกว่าทุกครั้ง
ก่อนอื่นเราก็วาดโครงคิ้วด้วย canmake liquid eyebrow(1)

ต่อด้วยการถมด้วยที่เขียนคิ้วแบบฝุ่นจาก beautilicious Arch it right
eyebrow kit แหม๊...ชื่อยาวจริงๆ
พาเลทนี้เจ๋งมาก มีเพลทเขียนคิ้ว มีแหนบ ให้ด้วย
เราลงสีอ่อน (2) บริเวณหัวคิ้วไล่ไปถึงหางคิ้วเลย และใช้สีเข้มเบอร์ (3)
วาดซ้ำบริเวณหางคิ้วอีกทีค่ะ




ต่อกันที่ Eye make up

Image Hosted by ImageShack.us
ใช้ NYX jumbo eye pencil สีดำสนิทระบายตรงเปลือกตาเป็นพื้นไว้ก่อน
เจ้าจัมโบ้แท่งนี้มีใหญ่สมชื่อจริงๆ เนื้อมันเงาๆนิดนึง เนื้อดีแต่ใช้ยากจัง
คือมันระบายที่หัวตาไม่ได้เลยล่ะ ใหญ่เกิน T-T





Image Hosted by ImageShack.us
หลังจากนั้นก็ใช้สีดำ จากพาเลท Smoke gets in your eyes จาก beautilicious
ระบายถมสีดำ NYX ที่ได้ระบายไว้ แบบนี้จะช่วยให้สีบริเวณเปลือกตาดูเข้ม
และติดทนมากยิ่งขึ้น

สำหรับขอบตาล่าง เราใช้ DEJAVU lasting fine วาดขอบตาล่าง แท่งนี้เราก็ชอบ
เพราะเส้นเล็กเรียวดี เนื้อติดทนใช้ได้เลย
*สังเกตได้ว่า เราจะเน้นสีเข้มที่ส่วนหางตามากกว่าหัวตานะคะ



Image Hosted by ImageShack.us
หลังจากลงส่วนสีดำแล้ว ก็จะใช้สีเทาในพาเลทช่วยเบลนด์สีให้ดูกลืนๆไป
เบลนด์ทั้งบนและล่างเลย แล้วในส่วนของหัวตา เราแตะ eye shadow สีขาวมุก
วาดในส่วนของหัวตาเล็กน้อย



หลังจากนั้นก็ปัดมาสคาร่า วันนี้เลือกใช้ Sublime de CHANEL
Image Hosted by ImageShack.us


ได้ประมาณนี้ค่ะ

Image Hosted by ImageShack.us



หลังจากนั้นก็มาปัดแก้มกันค่ะ

Image Hosted by ImageShack.us

โทนสีทีเลือกใช้เราเลือก NARS Orgasm
โทนพีชวิ้งทอง ปัดด้วยแปรงจาก RMK จะวิ้งกำลังดี และสีนุ่มสวย
เราชอบแปรงตัวนี้ที่สุด เพราะปัดออกมาได้สวยจริงๆ สีจะดูฟุ้งๆค่ะ
ถ้าเป็นแปรงขนม้า เราสังเกตว่าสีจะจัดกว่านี้หน่อย และวิ้งกว่านี้มากเหมือนกัน


Image Hosted by ImageShack.us
หลังจากนั้นเราก็ลงไฮไลท์บริเวณสันจมูกและใต้ตาด้วย ETUDE secret beam
ตัวนี้เราก็ชอบจัง เนื้อมันวิ้งกำลังสวยเลย ที่สำคัญราคาไม่แพงด้วย



ปิดท้ายด้วยการลงลิปค่ะ

Image Hosted by ImageShack.us
ครั้งนี้เราเลือกสีโทนเบจนู้ด PK4 จาก Lavshuca ลิปยี่ห้อนี้เนื้อเนียนสวย
ทาจากแท่งได้เลย เพราะออกแบบมาเป็นแท่งเรียวยาว สีติดทนมากเหมือนกัน



เสร็จแล้วจ้า...ชะแว้บ แอบไปใส่วิก 55+

ลุคเท่ๆกับหมวกเฟโดร่า
Image Hosted by ImageShack.us


ลองเปลี่ยนหมวกมั่ง เห็นหมวกนี้แล้วนึกถึง Amuro จังทุกที
Image Hosted by ImageShack.us

Image Hosted by ImageShack.us


แล้วพบกันใหม่ ฮาวทูหน้านะคะ

Image Hosted by ImageShack.us